สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 ส.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 ส.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (15 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประสบความสำเร็จให้การควบคุมเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจทรุดตัวลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,912.44 จุด เพิ่มขึ้น 151.39 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,297.14 จุด เพิ่มขึ้น 16.99 จุด หรือ +0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,128.05 จุด เพิ่มขึ้น 80.87 จุด หรือ +0.62%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (15 ส.ค.) โดยปรับตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่สัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 442.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด หรือ +0.34%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,569.95 จุด เพิ่มขึ้น 16.09 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,816.61 จุด เพิ่มขึ้น 20.76 จุด หรือ +0.15% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,509.15 จุด เพิ่มขึ้น 8.26 จุด หรือ +0.11%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (15 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มน้ำมันที่ปรับตัวลงหลังจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเกินคาดในเดือนก.ค.

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,509.15 จุด เพิ่มขึ้น 8.26 จุด หรือ +0.11% โดยปรับตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (15 ส.ค.) โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากแนวโน้มความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 2.68 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 89.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ดิ่งลง 3.05 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 95.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (15 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ในวันพุธนี้

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 17.4 ดอลลาร์ หรือ 0.96% ปิดที่ 1,798.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 42.6 เซนต์ หรือ 2.06% ปิดที่ 20.272 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 25.8 ดอลลาร์ หรือ 2.69% ปิดที่ 933.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ดิ่งลง 61.10 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 2,158.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (15 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.87% แตะที่ระดับ 106.5450

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9468 ฟรังก์ จากระดับ 0.9417 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2909 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2777 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 133.31 เยน จากระดับ 133.49 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0157 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0269 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2055 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2141 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7021 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7129 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button