ชัดเจน! “กรณ์” ทิ้งพรรคกล้าซบ “ชาติพัฒนา” เพิ่มโอกาสการเมือง

"สุวัจน์ ลิปตพัลลภ"แถลงข่าวเปิดตัว"กรณ์ จาติกวณิช" นั่งคุมบังเหียน “ทีมเศรษฐกิจ” ยันไม่ได้เป็นการรวมพรรค พร้อมหวังทำพรรคชาติพัฒนาจะกลับยิ่งใหญ่เหมือนยุค "พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ประธานพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วย“นายกรณ์ จาติกวณิช” หัวหน้าพรรคกล้า ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงทิศทางการทำงานการเมืองร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ

โดยนายสุวัจน์ ระบุถึงสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศครั้งนี้ถือว่าวิกฤตที่สุดตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์โควิด-19 ประกอบปัญหาสงคราม ส่งผลให้ปัญหาสินค้าราคาแพงและเงินเฟ้อตามมา พรรคชาติพัฒนา จึงตั้งเป้าจะหามาตรการและนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อกอบกู้วิกฤตในช่วงนี้

ทั้งนี้ทำให้พรรคชาติพัฒนา จึงต้องหามือเศรษฐกิจที่เป็นมืออาชีพ เข้าใจบริบทปัญหาเศรษฐกิจของโลกและของประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้า จึงมองว่านายกรณ์ มีความเหมาะสมและมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจโดยตรง จึงเชื่อมั่นว่านายกรณ์จะเป็นผู้ที่มากอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศด้วยการทำงานกับพรรคชาติพัฒนา แต่การจะแก้ไขวิกฤตปัญหาได้การเมืองต้องนิ่ง มีเสถียรภาพ ไม่มีความขัดแย้ง และมีความประนีประนอม ยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก

วันนี้ถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวทางการเมือง ผสมผสานความเป็นมืออาชีพทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจไว้ด้วยกัน ตนจึงมั่นใจว่า ด้วยทีมเวิร์คและความเป็นมืออาชีพที่ร่วมกันทำงานของทั้งสองฝ่าย จะทำให้เกิดความแข็งแกร่งและทีมเวิร์คที่ดีทางการเมือง จะนำไปสู่ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งการร่วมงานกับนายกรณ์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกฎหมายและพร้อมรับทีมงานของนายกรณ์และพรรคกล้ามาร่วมงานด้วย

ส่วนจะดำรงตำแหน่งอะไรในพรรคชาติพัฒนานั้น นายสุวัจน์ ระบุว่า ต้องเป็นตำแหน่งสำคัญที่มั่นใจว่าจะสามารถแก้วิกฤตเศรษฐกิจได้ และยังไม่ชัดว่าจะมานั่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของชาติพัฒนาหรือไม่ขึ้นอยู่กับจังหวะและปฏิทินการเมือง และการเมืองต้องหันหน้าเข้าหากัน และยังไม่ปิดโอกาสที่จะร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่น ก่อนย้ำพร้อมสู้ทุกกติกา

สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้จำนวนเท่าไหร่ แต่หวังว่าจะเห็นพรรคชาติพัฒนากลับมาเป็นพรรคใหญ่ และเป็นทางเลือกให้ประชาชน โดยมีบทบาทในการลดความขัดแย้ง สร้างเสถียรภาพทางการเมืองให้เกิดขึ้น สามารถรวมพลังร่วมกันกู้วิกฤตประเทศได้ แต่วันนี้ยังเร็วเกินไปว่าจะไปจับมือกับพรรคใดเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ขึ้นอยู่กับจังหวะทางการเมือง

ด้านนายกรณ์ เปิดเผยว่า พรรคการเมืองต้องมีความชัดเจนทั้งด้านหลักการและเป้าหมาย แต่ต้องมีความยืดหยุ่นในเส้นทางที่จะไปสู่เป้าหมายนั้น เป้าหมายของตนเองในฐานะนักการเมือง คือ ต้องการคนไทยอยู่ดีกินดีไม่เคยเปลี่ยน การจับมือกับนายสุวัจน์เป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก เพราะมีโอกาสที่จะช่วยกันผลักดันนโยบายสู่การปฏิบัติเพื่อประโยชน์ประชาชนได้ง่ายขึ้น

ส่วนความชัดเจนเรื่องสังกัดพรรคชาติพัฒนา นายกรณ์ แบ่งรับแบ่งสู้ที่จะตอบคำถาม หลังถูกถามว่า ลาออกจากสมาชิกพรรคกล้าแล้วหรือไม่และได้มาสมัครสมาชิกพรรคชาติพัฒนาแล้วหรือยัง โดยชี้แจงเพียงว่า ต้องรอรายละเอียดและรอขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ไม่ใช่การควบรวมพรรคชาติพัฒนาและพรรคกล้าเข้าด้วยกัน พรรคกล้าจะยังอยู่ในสถานะพรรคการเมือง แต่ทุกคนในพรรคกล้าเห็นตรงกันกับความร่วมมือครั้งนี้ แต่ในอนาคตจะมีคนจากพรรกล้าย้ายมาด้วยหรือไม่นั้น ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน

นายกรณ์ ยังยืนยันว่า การตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาไม่เกี่ยวกับสูตรคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อจาก 500 มาเป็น 100 แต่ส่วนตัวมองถึงโอกาสที่จะได้ทำงานให้กับประชาชน

ประธานพรรคชาติพัฒนา ยังกล่าวถึงยุทธศาสตร์พรรคที่ทุกพรรค ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือปานกลางต้องปรับตัว หากไม่ปรับก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ เช่นวันนี้ที่พรรคชาติพัฒนาดึงนายกรณ์เข้ามา เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เหมาะสม แต่ขอให้กติกาเป็นธรรม และนำไปสู่การเลือกตั้งที่ทุกคนยอมรับด้วย

ด้านนายกรณ์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมโดยมองว่าไม่เกี่ยวพรรคว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ แต่อยู่ที่การเสนอทางออก หรือนโยบายให้ประชาชนมองเห็น หากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ตอบโจทย์บ้านเมืองก็ไม่มีประโยชน์ และที่สำคัญต้องทำให้ประชาชนเชื่อว่าทำได้จริง

ทั้งนี้สัปดาห์หน้าพรรคชาติพัฒนาจะมีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การประชุมใหญ่ ซึ่งอาจจะมีความชัดเจนเรื่องตำแหน่งของตัวของนายกรณ์ ที่จะมาร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาด้วย

Back to top button