DPAINT ตั้งเป้ารายได้ปี 68 แตะ 2 พันลบ. เดินหน้า M&A ขยายช่องทางเพิ่ม

DPAINT ตั้งเป้ารายได้ปี 68 แตะ 2 พันลบ. วางงบลงทุน 1 พันล้านบาท เดินหน้าทำ M&A-JV ขยายช่องทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าผลักดันรายได้เพิ่มขึ้นแตะระดับ 2,050 ล้านบาทภายในปี 68 โดยคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตแบบปกติที่ยังมีโอกาสในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายอยู่ในร้านวัสดุก่อสร้างอยู่ทั้งหมดกว่า 2,000 ร้านค้า จากที่มีอยู่ทั้งหมดกว่า 8,000 ร้านค้า

ขณะเดียวกันยังมีแผนเพิ่มเครื่องผสมสีเป็น 1,200 เครื่อง จาก ณ สิ้นปีนี้คาดว่าจะติดตั้งได้ทั้งหมด 600 เครื่อง เพื่อรองรับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น และจะสร้างแบรนด์ให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้สามารถจัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการบริหารจัดการต้นทุนและประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการทำกำไรของบริษัทได้ดียิ่งขึ้นด้วย

พร้อมกันนี้บริษัทได้เริ่มขยายตลาดสีทาอาคารไปในประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ที่มีมูลค่าตลาดกว่า 17,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มประเทศดังกล่าวราว 10-15% ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 2%

“บริษัทยังมองหาการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และ การเข้าร่วมลงทุน (JV) ในกลุ่มสินค้าใหม่ๆที่บริษัทยังไม่มี เพื่อที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพการเติบโต ด้วยงบลงทุนราว 1,000 ล้านบาทในช่วงปี 66-68 โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นการทำดีลต่างๆเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของบริษัทตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป” นายรณฤทธิ์ กล่าว

สำหรับปี 65 บริษัทมั่นใจรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 900 ล้านบาท จากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีรายได้แล้ว 434.21 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 23.69 ล้านบาท โดยทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยให้กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันโรงแรมเริ่มกลับมาเปิดและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น เมื่อน้ำลดแล้วเชื่อว่าประชาชนต้องปรับปรุงบ้านให้กลับมาสู่สภาพปกติ โดยเฉพาะการทาสีเป็นสิ่งที่ทำได้ทันที ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 3 ผลิตภัณฑ์ และบริษัทยังได้มีการปรับราคาขึ้นมาเฉลี่ย 8% เพื่อให้สะท้อนกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยจะสะท้อนเข้ามาในผลประกอบการไตรมาส 3/65 ด้วย

Back to top button