2 โบรกแนะสอย “หุ้นแบงก์” รับ “ดอกเบี้ย-สินเชื่อ” ขาขึ้น ชู BBL ท็อปพิก

“บล.ดาโอ-ฟิลลิป” แนะสอย “หุ้นแบงก์” มองผลบวกต่อสินเชื่อในเดือน ส.ค.65 ปรับตัวเพิ่มขึ้น รับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และสินเชื่อโตต่อเนื่อง ชู BBL ท็อปพิก เป็นธนาคารที่มีสินเชื่อเติบโตมากที่สุด


บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ภาพรวมสินเชื่อเดือน ส.ค.65 ทั้งหมด 8 ธนาคาร อยู่ที่ 11.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาจากสินเชื่อรายใหญ่และรายย่อย โดยธนาคารที่มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาคือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา จากสินเชื่อรายใหญ่ที่เติบโตได้ดีทั้งจากที่ไทยและต่างประเทศ รองลงมาเป็น ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา จากสินเชื่อรายใหญ่ สินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อบ้าน

ขณะที่ธนาคารที่มีสินเชื่อลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ลดลงที่ 1.3% จากสินเชื่อรายใหญ่ที่มีการชำระคืน แต่สินเชื่อภาครัฐกับสินเชื่อ SME ทรงตัว ส่วนภาพรวมของเงินฝากในเดือน ส.ค. 65 อยู่ที่ระดับ 12.7 ล้านล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา แต่ธนาคารขนาดเล็กอย่าง TISCO และ KKP มีการเพิ่มขึ้นถึง 6.8% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ตามลำดับ เนื่องจากมีการเร่งระดมเงินฝากประจำเพิ่มขึ้นท่ามกลางแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยมองกลุ่มธนาคารเป็นบวกต่อสินเชื่อในเดือน ส.ค.65 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาได้ตามคาดจากการเติบโตของสินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อรายย่อยอย่างเช่าซื้อและบ้าน

โดยประเมินว่าภาพรวมของสินเชื่อในเดือน ก.ย. 65 จะเห็นการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะสินเชื่อรายใหญ่อยู่ในช่วงเร่งตัวขึ้น และภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ โดยการเติบโตของสินเชื่อยังคงดีตามคาด ซึ่งทำให้ภาพรวมสินเชื่อรวมทั้งปี 65 ของกลุ่มสินเชื่อที่คาดไว้ 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (เทียบกับสินเชื่อรวมของกลุ่มในงวด 8 เดือน ปี 65 อยู่ที่ 3.0% ช่วงระยะเวลาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน) ยังคงทำได้ตามคาด

อย่างไรก็ดี ยังคงให้ความสำคัญกับประเด็นของ NPL มากกว่าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นไม่น่ากังวลมากนัก เพราะ ธปท.มีการต่อมาตรการไปถึงวันที่ 31 ธ.ค.66

นอกจากนี้ ยังคงให้น้ำหนักเป็น “มากกว่าตลาด” แนะนำเลือก ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, KTB เป็นท็อปพิก ขณะที่ BBL ได้ผลเชิงบวกจากสินเชื่อที่โตเด่นในเดือน ส.ค.65 ยังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะ valuation ยังถูกเทรดที่ค่า PBV ระดับเพียง 0.70 เท่า

ด้าน NPL ถึงแม้ว่าจะยังอยู่ในขาขึ้น แต่เป็นการทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะยังมีมาตรการช่วยเหลือต่อถึงสิ้นปี 66 โดยยังคงชอบกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่มากกว่าธนาคารขนาดเล็กเนื่องจากได้ประโยชน์จากแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย เป็นขาขึ้น แม้ว่าแต่ละธนาคารจะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตาม กนง. ที่ขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 65 แต่คาดว่าวันที่ 28 ก.ย. 65 จะเห็นว่าธนาคารเริ่มทยอยปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นไปก่อนแล้ว

โดยเรายังเลือก KBANK เป็น Top pick ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 190.00 บาท ในปี 65 ซื้อขายบนค่า PBV ที่ 0.90 เท่า เพราะได้ประโยชน์จากสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้ดีในครึ่งหลังของปี 65 และเป็นธนาคารที่เน้นดิจิทัลรายแรกและยังเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลต่อเนื่องซึ่งจะเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไป และเลือก KTB ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 18.00 บาท ในปี 65 ซื้อขายบนค่า PBV ที่ 0.66 เท่า

ขณะที่คาดว่าจะมีอัพไซด์เพิ่มจากการใช้ดาต้าในแอฟพลิเคชั่นเป๋าตังและอื่นๆ ที่ช่วยเหลือรัฐบาล ซึ่งสามารถนำข้อมูลมา cross-selling เพิ่มเติมได้อีกในอนาคต ขณะที่ BBL แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 167.00 บาท จะได้ผลเชิงบวกจากสินเชื่อที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นในเดือน ส.ค. 65

ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า สินเชื่อเดือน ส.ค. เติบโตอีก 0.25% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ทั้ง 8 ธนาคารที่ทางฝ่ายวิจัยทำการศึกษารายงานแบบแสดงสินทรัพย์และหนี้สินเดือน ส.ค. มีสินเชื่อโตอีก 0.25% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และทำให้สินเชื่อโตจากสิ้นปี 64 ที่ 2.81% ช่วงระยะเวลาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน

ส่วน KTB หดตัวมากที่สุดในเดือน ส.ค. ซึ่งมี 4 ธนาคารที่มีสินเชื่อเติบโต รวมถึง BBL เป็นธนาคารที่มีสินเชื่อเติบโตสูงที่สุดถึง 3.71% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และเป็นธนาคารที่มีสินเชื่อขยายตัวมากที่สุด 3 เดือนติดต่อกัน ในขณะที่มี 4 ธนาคารที่สินเชื่อหดตัวลง โดย KTB มีสินเชื่อหดตัวมากที่สุดถึง 1.22% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ยังให้น้ำหนัก “ลงทุนมากกว่าตลาด” รับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ถึงแม้ว่ามาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ที่หมดไป ซึ่งประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว อาจจะทำให้ NPL ของกลุ่มเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 3/65

อย่างไรก็ตาม ยังคงมองว่าระดับสำรองของกลุ่มยังมีอยู่สูง ซึ่งจะทำให้การตั้งสำรองในปีนี้ลดลง ประกอบกับสินเชื่อที่ยังเติบโต และทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยเติบโตได้ และน่าจะทำให้กำไรของกลุ่มธนาคารเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ยังคงเลือก บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เป็นท็อปพิกของกลุ่ม

Back to top button