คัด 3 หุ้นเด่น รับยอดผลิตรถยนต์ 8 เดือนทะลัก 1.18 ล้านคัน ชู SAT หุ้นท็อปพิค-กำไรโตแกร่ง

คัด 3 หุ้นเด่น รับยอดผลิตรถยนต์ 8 เดือนแรกทะลัก 1.18 ล้านคัน โต 11% เทียบปีก่อน ชู SAT หุ้นท็อปพิค-กำไรครึ่งปีหลังโตแกร่ง 22%


บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(23 ก.ย.65) ว่า ส.อ.ท.รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน ส.ค.65 อยู่ที่ 1.71 แสนคัน โต 65% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 20%เทียบเดือนก่อนหน้า โดยเติบโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมาจากฐานต่ำปีก่อนที่ค่ายรถยนต์หลายแห่งลดกำลังการผลิตจากการระบาดโควิด-19 และดีขึ้นเทียบเดือนก่อนหน้า จากการผลิตรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ขายในประเทศ และผลิตรถกระบะและรถ PPV เพื่อขายในประเทศและส่งออกเพิ่มขึ้น

สำหรับยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 6.8 หมื่นคัน โต 62% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, โต 7% เทียบเดือนก่อนหน้า โดยดีขึ้นมากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากฐานต่ำปีก่อนที่มีการล็อกดาวน์ ส่วนยอดส่งออกอยู่ที่ 7.3 หมื่นคัน โต 23% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, ลดล 12%เทียบเดือนก่อนหน้าโดยยอดส่งออกยังทรงตัวได้ดีจากความต้องการรถยนต์ทั่วโลกที่ยังคงสูง

ส่วนยอดผลิตรถยนต์ 8 เดือน 2565 อยู่ที่ 1.18 ล้านคัน โต 11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ส.อ.ท.ยังคงเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ปี 65 ที่ 1.75 ล้านคัน โต 4%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยบล.ดาโอ มองเป็นบวกจากยอดผลิตรถยนต์ที่เติบโตได้ดีขึ้น ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์รวม 8 เดือน 65 คิดเป็น 68% จากเป้าทั้งปีที่ประเมินที่ 1.75 ล้านคัน โดยแนวโน้มยอดผลิตรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีจะยังมีทิศทางเติบโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ต่อเนื่อง และทำให้ทั้งปีมีโอกาสดีขึ้นเป็น 1.8 ล้านคัน โต 7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เติบโตเร็ว ขณะที่ยอดส่งออกยังต้องติดตามสถานการณ์การขาดแคลนชิปที่ยังมีอยู่อาจทำให้การฟื้นตัวยังช้า

สำหรับกลุ่มยานยนต์ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “Neutral” หุ้น top pick ได้แก่ SAT โดยราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์ปรับตัวลง        underperform SET เล็กน้อย 1% ในช่วง 3 เดือน จากผลการดำเนินงานกลุ่มยานยนต์ในไตรมาส 2/65 ที่ชะลอตัวตามยอดผลิตรถยนต์ที่ลดลง แต่กลับมา outperform SET 5% ในช่วง 1 เดือน จากยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.ค.-ส.ค.65 ที่มีแนวโน้มดีขึ้น

โดยสำหรับหุ้น top pick ได้แก่ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท  ขณะที่กำไรครึ่งหลังปี 65 จะกลับมาเติบโตได้ดี 22% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 3% เทียบครึ่งปีแรก 65 ตามยอดผลิตรถยนต์ที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันประเมินกำไรปี 66 จะเติบโตดีขึ้นเป็น 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนยอดผลิตรถยนต์ที่ฟื้นตัวดี

นอกจากนี้ยังเป็นบวกต่อ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ,บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD สำหรับยอดผลิตรถยนต์ที่ฟื้นตัวดีมองเป็นบวกต่อหุ้นที่มีรายได้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะปรับตัวดีขึ้น ได้แก่ EPG แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 12.00 บาท มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจยานยนต์ 45-50% และ JWD แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 21.00 บาท มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจยานยนต์ราว 10-15%

Back to top button