โค้งสุดท้าย Q3! ลุ้น 25 หุ้น เป้าสถาบันทำ “วินโดว์ เดรสซิ่ง”

จับตา! 25 หุ้น ลุ้นเป็นเป้าหมายถูกทำ Window Dressing ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นสุดไตรมาส 3/65


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อใกล้สัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดงบบัญชีในทุกไตรมาส มักกล่าวถึง Window Dressing ซึ่งเป็นความเชื่อทางการเงินว่ากองทุนต่างๆ จะปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อรายงานผลตอบแทนให้ประทับใจแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน

โดยกองทุนจะซื้อหุ้นที่ถืออยู่แล้วเพิ่มเติม โดยเฉพาะหุ้นที่มีมูลค่าสูงในพอร์ต เพื่อทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น หรือขายหุ้นตัวที่ขาดทุนมากออกไป พร้อมกับซื้อหุ้นตัวที่มีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นเข้ามาแทน ซึ่งก็เพื่อพยายามตกแต่งให้ผลการดำเนินงานของกองทุนที่มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมจำกัดมีการบริหารอยู่ดีขึ้น

สำหรับเหตุผลในการทำ Window Dressing หลักๆก็เพราะว่า ผลการดำเนินงานของกองทุน เป็นตัวชี้วัดตัวหนึ่งที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพการทำงานของนักลงทุนสถาบัน จึงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนสถาบันตกแต่งผลการดำเนินงานของกองทุนให้ออกมาดูดี

อีกเหตุผลหนึ่งในการทำ Window Dressing ก็เพื่อปรับการลงทุนของกองทุนให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ เพราะระหว่างทางอาจมีการลงทุนบางส่วนที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายจัดตั้ง และเนื่องจากผลการดำเนินงานของกองทุนจะมีการรายงานในทุกสิ้นงวดไตรมาส จึงทำให้ Window Dressing มักจะเกิดขึ้นก่อนช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้โอกาสหุ้นเข้าข่ายเป็นเป้าหมายในการถูกไล่ซื้อเพื่อปิดงวดบัญชี (Window Dressing) ซึ่งประเมินจากสภาพแวดล้อมแล้วมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของช่วงปลายไตรมาส 3/2565 จึงคัดเลือกหุ้นที่มีโอกาสถูกทำ Window Dressing ในรอบนี้โดยอิงจาก

1.หุ้นที่มี Market Cap. สูง เกิน 1 แสนล้านบาท 2.ราคาหุ้นใกล้เคียงกับราคาปิดสิ้นไตรมาส 2/2565 ซึ่งคุ้มที่จะทำ Window Dressing เพราะช่วยให้ผลตอบแทนเป็นบวกชัดเจนมากขึ้น 3.ราคาหุ้นทรุดตัวลงมากเกินไปซึ่งดูจะไม่สวยถ้าถูกนำไปเผยแพร่ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน 4.ข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่ามักถูกทำ Window Dressing 5.มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ PTT, AOT, EA, CPN, ADVANC,CPALL, BDMS, SCC, SCB, KBANK, EA, OR, CPN, BBL, KTB, CRC, AWC, และ MINT เป็นต้น ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่าง

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ระบุว่า มี 2 กลุ่มที่มีโอกาสทำ Window Dressing ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ SCC, IVL, MINT, CPALL, CBG, ADVANC และ STGT ขณะที่หุ้นกลุ่มขนาดกลาง ได้แก่ MAJOR, STARK, STEC และ BAM

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด(มหาชน) ระบุว่า หุ้นมีโอกาสเข้าข่ายเป็นเป้าหมายในการทำ Window Dressing ช่วงไตรมาส 3/2565 กลุ่มธนาคารที่มีโอกาสมากสุด หลังจากที่ผ่านมาเจอแรงเทขายไปพอสมควรจากนักลงทุนต่างชาติที่มีการลดพอร์ตไปก่อนหน้านี้ ประกอบกับในวันที่  28 ก.ย. 65 จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่ากลุ่มธนาคารจะมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นในครั้งนี้หลังจากก่อนหน้าไม่ได้ปรับดอกเบี้ยขึ้นตามกนง. ในรอบการประชุมที่ผ่านมา หุ้นน่าสนใจ ได้แก่ BBL , KBANK และ SCB

อย่างไรก็ตามหากอ้างอิงสถิติเก่าจากข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี พบว่าการเคลื่อนไหวของ SET50 Index ในช่วง 5 วันทำการ และ 10 วันทำการสุดท้ายของแต่ละไตรมาสให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ +0.3% และ -0.2% ตามลำดับ หากตัดช่วงที่ถูกกระทบจากโควิดอย่างหนักในปี 2563 ออก จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ -0.1% เท่ากันทั้ง 2 ช่วงเวลา ทำให้ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าการทำ Window Dressing ไม่ได้เกิดขึ้นทุกไตรมาส

ทว่าถ้าพิจารณาไปที่ค่าเฉลี่ยของแต่ละไตรมาส จะพบว่าการเคลื่อนไหวในช่วง 5 วันสุดท้ายของแต่ละไตรมาสไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ส่วนการเคลื่อนไหวในช่วง 10 วันสุดท้ายของแต่ละไตรมาส พบว่า ไตรมาส 1 และไตรมาส 4 ให้ค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนเป็นบวกที่ +0.1% และ +0.6% ตามลำดับ

โดยมีความน่าจะเป็นในการให้ผลตอบแทนเป็นบวกเท่ากันที่ระดับ 75% ขณะที่ไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ให้ค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนเป็นลบที่ -1.1% และ -0.1% ตามลำดับ โดยมีความน่าจะเป็นในการให้ผลตอบแทนเป็นลบเท่ากันที่ระดับ 50%

 

Back to top button