หุ้นโรงกลั่นยิ้ม! “สุวัฒน์” มอง โอเปกพลัสลดผลิต “สร้างอำนาจต่อรอง-ดันราคา”

"สุวัฒน์ สินสาฎก" มอง โอเปกพลัสหั่นกำลังผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วัน หวังสร้างอำนาจต่อรองสงครามพลังงานกับมหาอำนาจ ด้านโรงกลั่นรับอานิสงส์ดันราคาวิ่งต่อ มั่นใจอนาคตน้ำมันดิบแตะ 100 เหรียญอีกครั้ง


นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ FSSIA วิเคราะห์ผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ถึงมติขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส ที่จะลดการผลิตน้ำมันลงวันละ 2 ล้านบาร์เรล เพื่อกระตุ้นราคาน้ำมันดิบ โดยไม่สนขอเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่เตรียมนำน้ำมันคงคลังกว่า 10 ล้านบาร์เรล ออกมากระจายเพี่อกอบกู้เศรษฐกิจโลกว่า ท้ายที่สุดจะจบลงด้วยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และมีโอกาสที่ราคาจะกลับไปยืนเหนือ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะส่วนตัวไม่เชื่อว่า สหรัฐฯจะสามารถกระจายน้ำมันออกมาได้วันละ 10 ล้านบาร์เรลได้ เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่ได้มีน้ำมันเก็บไว้ได้นานขนาดนั้น ประกอบการใช้น้ำมันในสหรัฐต่อวันก็แตะ 10 ล้านลาร์เรลต่อวันอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันสิ่งที่สะท้อนจากการประชุม โอเปกพลัส ซึ่งมีรัสเซียร่วมอยู่ด้วย คือสงครามในการสร้างอำนาจการต่อรองด้านพลังงาน ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ก็ใช้วิธีในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า จนทำให้ราคาพลังงานปรับตัวลดลง เพราะทุกคนกลัวเรื่องเงินเฟ้อและการเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจจึงเป็นที่มาที่ โอเปกพลัส มีมติดังกล่าวออกมา และการแทรกแซงราคาพลังงานของสหรัฐฯ อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะท้ายที่สุดแล้ว “น้ำมัน” ยังเป็นปัจจัยที่ 5 ของประชากรทั่วโลก

สำหรับหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการลดกำลังการผลิตของ “โอเปกพลัส” คงหนีไม่พ้นหุ้น“โรงกลั่น” อย่าง บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO และหุ้น “ปั้มน้ำมัน” อย่าง SUSCO ที่จะได้รับอานิสงส์ที่ไปจับมือร่วมกับ ESSO หลังนำปั้มของ SUSCO เดิมเปลี่ยนชื่อเป็นปั้ม ESSO ควบคู่กับการเข้ามาทำธุรกิจ NON-OIL เพิ่มมากขึ้นด้วยการนำร้านอาหารและเครื่องดื่มยี่ห้อชั้นนำมาเปิดให้บริการภายในปั้มภายใต้ชื่อ SUSCO SQUARE จึงทำให้ในอนาคตการปรับกลยุทธ์ของ SUSCO จะมีความน่าสนใจอย่างมากกับรายได้ที่จะมีเข้ามา

นอกจากนี้ยังมีหุ้นของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจปลายน้ำของ IVL ทั้งการผลิตขวด PET และผ้าออมที่ส่งออกไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่า IVL จะมีรายได้จากส่วนนี้ประมาณ 50,000 ล้านบาท

Back to top button