SELIC ลุยธุรกิจ “เฮลท์แคร์” เต็มสูบ ปักธงรายได้ปีนี้โต 15%

SELIC กางแผนโค้งท้ายปี 65 ลุยธุรกิจเฮลท์แคร์ เต็มสูบ-บุ๊กรายได้ “เทวกรรมฯ”ไตรมาส 4/65 มั่นใจดันรายได้ปีนี้แตะ 1.5 พันล้าน โต 10-15%


นางสาวยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) SELIC เปิดเผยว่า บริษัทเปิดแผนธุรกิจโค้งท้ายปี 65 พร้อมก้าวกระโดดสู่ธุรกิจ HEALTHCARE อย่างจริงจัง ตามแนวโน้มเทรนด์สายสุขภาพที่สังคมเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น สอดคล้องกับความต้องการทั่วโลกที่ในปัจจุบันหันมาให้ความสนใจและใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้มองว่าธุรกิจ Healthcare จะเป็นภาคธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และวิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ของคนเมือง รวมทั้งการเข้าถึงระบบประกันสุขภาพต่างๆ

โดยการเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจ Consumer Healthcare ของซีลิคนั้น เป็นการดำเนินการตามเป้าหมายการขยายตลาดที่แตกต่างและหลากหลายไปจากธุรกิจหลัก (Diversity) และตลาด Healthcare เป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายที่ซีลิคได้ตั้งเป้าไว้

ทั้งนี้การเข้าสู่ HEALTHCARE ยังนับเป็นพัฒนาการเชิงกลยุทธ์อีกก้าวหนึ่งเพื่อหาโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มควบคู่ไปกับแผนการเติบโตของฐานธุรกิจหลักของซีลิคในปัจจุบัน โดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯมีการเข้าลงทุนในบริษัท เทวกรรมโอสถ จำกัด สัดส่วน 50% ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตและบริหารจัดการในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Consumer Healthcare ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทในการเข้าลงทุนในโครงการลงทุนในการซื้อสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ NeoplastTM, NeobunTM

จากโครงการลงทุนในธุรกิจ Healthcare ล่าสุดทำให้บริษัทเกิดสายธุรกิจใหม่ 3 กลุ่มธุรกิจคือ จากเดิมที่มีธุรกิจกาวอุตสาหกรรม (adhesive segment) และธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัว (Self-adhesive segment) และกลุ่ม Healthcare segment ซึ่งประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “น้ำมันมวย” รวมไปถึง ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Neoplast และ Neobun” ซึ่งจะมีฝ่ายจัดการบริหารที่มีความเชี่ยวชาญตลาดนี้ โดยทั้ง 3 กลุ่มจะมีสัดส่วนรายได้ราว 30-35%

โดยหลังจากบริษัทก้าวกระโดดสู่ธุรกิจ HEALTHCARE อย่างจริงจัง คาดว่าธุรกิจกาวอุตสาหกรรม และธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัว  รวมทั้งหลังจากซื้อ “เทวกรรมโอสถ” แล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.65 ก็จะมีสัดส่วนจากธุรกิจเฮลท์แคร์ (Healthcare) เข้ามาเสริมให้บริษัทมีความแข็งแกร่งคาดไตรมาส 4/65 เริ่มรับรู้รายได้จากเทวกรรมโอสถเข้ามาทันที

อย่างไรตามผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “น้ำมันมวย” คาดว่าจะได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กลางเดือนพ.ย.65 นี้ เพื่อให้อยู่ภายใต้การดูแลของซีลิค และเริ่มผลิตสินค้าเพื่อออกจำหน่ายได้ภายในต้นเดือน ธ.ค.นี้ หรืออย่างช้าไม่เกินกลางไตรมาส 1/2566

อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าปีนี้สัดส่วนรายได้จาก 3 กลุ่มธุรกิจได้แก่ กาวอุตสาหกรรม,ธุรกิจสติ๊กเกอร์ และกลุ่ม Healthcare ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “น้ำมันมวย” รวมไปถึง ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Neoplast และ Neobun” จะให้ทำรายได้ในแต่ละกลุ่มราว 500-700 ล้านบาท คาดดันรายได้ทั้งปีนี้ราว 1,500 ล้านบาท โต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,257.88 ล้านบาท และหนุนรายได้ปี 66 โตเด่นต่อเนื่อง

นางสาวยุวดี กล่าวทิ้งท้ายว่า การเข้าถือหุ้นในเทวกรรมโอสถ จะช่วยสนับสนุนต่อการเติบโตของธุรกิจ และเป็นการรุกเข้าสู่อุตสาหกรรม Healthcare รวมถึงเป็นการต่อยอดจากโครงการลงทุนในการซื้อสินทรัพย์สำหรับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ภายใต้แบรนด์ Neoplast และ Neobun  ซึ่งจะส่งเสริมและสนับสนุนต่อกันและผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อการดำเนินการในธุรกิจ Consumer Healthcare ของซีลิค

Back to top button