ลุ้น! กสทช.ไฟเขียวงบถ่าย “บอลโลก 2022” พุธนี้-กกท.รับ “มัสต์แฮฟ” ทำราคาพุ่ง

จับตา “กสทช.” เคาะงบซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 วงเงิน 1.6 พันล. พุธนี้ คาดหุ้นกลุ่มบริโภค ค้าปลีก โทรทัศน์ เสื้อผ้า และกีฬา วิ่งคึกคัก นำโดย MINT-CRC-HMPRO-BJC-MAKRO-CPALL-CENTEL และ BEC ด้านกกท.ยอมรับกฎ “มัสต์แฮฟ” ทำราคาลิขสิทธิ์พุ่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ซึ่งจะเริ่มเตะนัดแรกในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ โดยล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เปิดเผยว่า ความแน่ชัดการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 อาจต้องรอในสัปดาห์นี้ เพื่อทราบถึงกรอบวงเงินการจัดซื้อลิขสิทธิ์ที่จะต้องผ่านความเห็นชอบจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ตามที่ได้ทำเอกสารวงเงิน 1,600 ล้านบาทหรือไม่ แต่ยอมรับว่าการที่ทางเอเย่นต์ของฟีฟ่ารู้ว่า ประเทศไทยมีกฏ “มัสต์แฮฟ” ที่คนไทยจะได้รับสิทธิ์ในการดูกีฬาดังกล่าวฟรี จึงทำให้เอเย่นต์เรียกราคามาค่อนข้างสูง ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรอง เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม และต้องเป็นราคาที่ไทยไม่ถูกเอาเปรียบจนเกินไป

ทั้งนี้ กกท.ไม่ปิดกั้นหากภาคเอกชนจะเข้าร่วมสนับสนุนในการซื้อลิขสิทธิ์ ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการ แม้ใกล้การแข่งขันเข้ามาแล้ว แต่ก็ยังมีเวลา ซึ่งเส้นตายในการดำเนินการเจรจาซื้อขายนั้นสามารถทำได้จนถึงก่อนการแข่งขันนัดเปิดสนามจะเริ่มขึ้นในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565

ด้านนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงาน กสทช. ได้รับหนังสือชี้แจงการร้องของบประมาณจาก กกท. แล้ว ซึ่งสำนักงาน กสทช.กำลังพิจารณารายละเอียด เพื่อจัดทำวาระการประชุมเสนอให้ คณะกรรมการ กสทช. พิจารณาอนุมัติ หรือ ไม่อนุมัติ ในวันพุธ ที่ 9 พฤศจิกายนนี้

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุ กรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กำชับการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เร่งประสานงานกสทช. ให้คนไทยได้ชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เพิ่มความเป็นไปได้ที่ภาครัฐจะเป็นเจ้าภาพในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ช่วงเวลาถ่ายทอดสด (ตามเวลาประเทศไทย) คือ 20.00 น., 23.00 น. และ 02.00 น. โดยประเมินเป็นบวกหุ้นกลุ่มบริโภค อาทิ โทรทัศน์ เสื้อผ้า และกีฬา ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และการติดตามข่าวสารประชาชนผ่านสื่อต่าง ๆ เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาล คาดหนุนเม็ดเงินโฆษณาเริ่มฟื้นตัวบวกต่อกลุ่มบันเทิง อาทิ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC

ทั้งนี้ อิงข้อมูลผลตอบแทนหุ้นช่วงที่มีถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ในอดีต 5 ครั้งล่าสุด โดยไม่นับรวมปีที่มีความเสี่ยงตลาดฯ หรือ Market Risk ปกคลุม ช่วงปี 2545 เกิดวิกฤตฟองสบู่ดอทคอม หรือ Dot Com Crisis และ 2561 ที่มีสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ และนโยบายการเงินแบบตึงตัว หรือ QT แล้ว SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราวเป็นบวก 4.4%

สำหรับอุตสาหกรรมที่ปรับตัวโดดเด่นคือ ค้าปลีก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.9%, ขนส่ง เพิ่มขึ้น 7.7%, เกษตร เพิ่มขึ้น 7.3%, อาหาร เพิ่มขึ้น 6.6% และบันเทิง เพิ่มขึ้น 5.5% หุ้นปรับตัวเด่น ได้แก่ MAKRO ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.3%, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เพิ่มขึ้น 12.3%, CPALL เพิ่มขึ้น 9.8%, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เพิ่มขึ้น 9.3%, BEC ปรับเพิ่มขึ้น 9.2% มีโอกาสสูงถึง 67%

Back to top button