สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 พ.ย. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 พ.ย. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร (8 พ.ย.) โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,160.83 จุด เพิ่มขึ้น 333.83 จุด หรือ +1.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,828.11 จุด เพิ่มขึ้น 21.31 จุด หรือ +0.56% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,616.20 จุด เพิ่มขึ้น 51.68 จุด หรือ +0.49%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (8 พ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐที่เป็นบวกต่อตลาด นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 421.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.27 จุด หรือ +0.78%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,441.50 จุด เพิ่มขึ้น 24.89 จุด หรือ +0.39%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,688.75 จุด เพิ่มขึ้น 155.23 จุด หรือ +1.15% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,306.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.15 จุด หรือ +0.084%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (8 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ทะยานขึ้นก่อนรู้ผลเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,306.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.15 จุด หรือ +0.08%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันอังคาร (8 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ย่ำแย่ในจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ และรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐ

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 88.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.56 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 95.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (8 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอม

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 35.5 ดอลลาร์ หรือ 2.11% ปิดที่ 1,716 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 58.3 เซนต์ หรือ 2.79% ปิดที่ 21.502 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 25.1 ดอลลาร์ หรือ 2.54% ปิดที่ 1,014.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 35.10 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,932.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (8 พ.ย.) หลังจากมีการคาดการณ์ว่าชัยชนะของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอมจะเป็นปัจจัยลบต่อดอลลาร์ เนื่องจากจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.44% แตะที่ระดับ 109.6390

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 145.55 เยน จากระดับ 146.56 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9858 ฟรังก์ จากระดับ 0.9878 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3438 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3492 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.7513 โครนา จากระดับ 10.8191 โครนา

ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0077 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0028 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1537 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1533 ดอลลาร์

Back to top button