สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 พ.ย. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 พ.ย. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 1 พันจุดในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,715.37 จุด พุ่งขึ้น 1,201.43 จุด หรือ +3.70%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,956.37 จุด เพิ่มขึ้น 207.80 จุด หรือ +5.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,114.15 จุด พุ่งขึ้น 760.97 จุด หรือ +7.35%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) และปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดได้สนับสนุนความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลง

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 431.89 จุด พุ่งขึ้น 11.55 จุด หรือ +2.75%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,556.83 จุด พุ่งขึ้น 126.26 จุด หรือ +1.96%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,146.09 จุด พุ่งขึ้น 479.77 จุด หรือ +3.51% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,375.34 จุด เพิ่มขึ้น 79.09 จุด หรือ +1.08%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ตามทิศทางการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัว ซึ่งทำให้มีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,375.34 จุด เพิ่มขึ้น 79.09 จุด หรือ +1.08% ซึ่งเป็นระดับปิดแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 86.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 93.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 40 ดอลลาร์ หรือ 2.33% ปิดที่ 1,753.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 2565

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 37.5 เซนต์ หรือ 1.76% ปิดที่ 21.702 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 57.7 ดอลลาร์ หรือ 5.79% ปิดที่ 1,055 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 95 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 1,954.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 2.12%  แตะที่ระดับ 108.2040

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 141.84 เยน จากระดับ 146.64 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9666 ฟรังก์ จากระดับ 0.9857 ฟรังก์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3352 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3534 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.6139 โครนา จากระดับ 10.8935 โครนา

ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0183 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0005 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1696 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1344 ดอลลาร์

Back to top button