SABINA กำไร Q3 โตสนั่น 82% ทะลุ 100 ลบ. ย้ำเป้าปี 65 รายได้พุ่ง 20%

SABINA กำไรไตรมาส 3/65 โตสนั่น 82% ทะลุ 100 ลบ. จากปีก่อนกำไร 55 ลบ. รับยอดขายขยายตัว ส่วนงวด 9 เดือนกำไร 311 ลบ. โต 59% พร้อมตั้งเป้าปี 65 รายได้พุ่ง 20% เดินหน้าจัดแคปเปญกระตุ้นยอดขาย


บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/65 และงวด 9 เดือนปี 65 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.65 ดังนี้

โดย นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/65 (ก.ค.-ก.ย.) และงวด 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ยังเป็นไปตามเป้าหมาย โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้รวมและกำไรสุทธิปีนี้เติบโตมากกว่างวดเดียวกันของปีก่อน มาจากบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น รวมถึงเมกะแคมเปญช้อปปิ้ง 9.9 ในเดือนกันยายน ที่สินค้า SABINA มียอดขายสูงสุดในกลุ่มสินค้าแฟชั่นทั้งในประเทศและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่บริษัทฯ ยังสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ บริษัทฯ ยังรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (GPM : Gross Profit Margin) ไว้ได้ที่ระดับ 48% ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งในการทำกำไรของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 รายได้ยอดขายของบริษัทฯ เติบโตในทุกช่องทาง โดยในช่องทางค้าปลีก (Retail) เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 64 คิดเป็น 38.1% ช่องทางออนไลน์ (Non-Store Retailing) เติบโต 9.6%  ขณะที่ช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) เติบโต 14.0% ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาทแตะระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้จนถึงปี 66 ทำให้รายรับสกุลเงินต่างประเทศจากการรับจ้างผลิตปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด โดยมีการปรับแผนกลยุทธ์ในการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งในแง่มุมการนำเข้าและส่งออกให้เกิดความสมดุล และเกิดผลเชิงบวกกับบริษัทฯ มากที่สุด

“ยอดขายของ SABINA กลับมาเติบโตได้ทุกช่องทาง โดยเราเชื่อว่า ในปีนี้แต่ละช่องทางขายจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะทำให้มีแรงส่งในไตรมาสสุดท้ายของปี และทำให้เป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่เราพยายามจะทำให้กลับไปยืนที่จุดสูงสุดเมื่อปี 62 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ที่ระดับ 3,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้ในปี 2564 ประมาณ 20% นั้นมีโอกาสเป็นไปได้มากๆ ซึ่งต้องลุ้นว่า ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ที่มีเมกะแคมเปญช้อปปิ้ง 11.11 วันคนโสด ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่ที่สุดของปี เราจะทำยอดขายได้เท่าไหร่ รวมถึงลุ้นด้วยว่า ช่วง 3 เดือนสุดท้ายซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่าที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ และสุดท้ายคือ ต้องลุ้นว่า ในช่วงปลายปีนี้รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น มาตรการช้อปดีมีคืน หรือไม่ เพราะถ้ามีปัจจัยเหล่านี้เข้าไปสนับสนุนเพิ่มขึ้น ก็เชื่อว่า SABINA จะสามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว

Back to top button