ตลท.พบพิรุธออเดอร์ MORE เร่งสอบ “รายใหญ่” ขายไม้เดียว 700 ล้านหุ้น

"ตลท." พบพิรุธคำสั่งขายหุ้น MORE เร่งสอบ "รายใหญ่" ขายไม้เดียว 700 ล้านหุ้น ช่วงเปิดตลาดวันที่ 10 พ.ย.65 ย้ำพบข้อมูลกระทำความผิดคืบหน้าแล้วกว่า 50%


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีความผิดปกติของคำสั่งซื้อขาย บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 65 ที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดตลาดขึ้นไป 4.3% จากราคาปิดวันก่อนหน้า และมีจำนวนหุ้นซื้อขายมากถึง 1,500 ล้านหุ้น ซึ่งคิดมูลการซื้อขายประมาณ 4.5 พันล้านบาท โดยมีคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อเพียงรายเดียว ผ่านบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งที่ราคา 2.90 บาท

ขณะที่ทางฝั่งผู้ขายพบว่า มีคำสั่งขายจำนวนมากจากผู้ขายที่หลายระดับราคาใกล้เคียงกับราคาเสนอซื้อ โดยคำสั่งขายที่มีจำนวนมากที่สุด คือการขายจำนวน 700 ล้านหุ้นต่อราย รองลงมาคือคำสั่งขายจำนวน 600 ล้านหุ้นต่อราย โดยการจับคู่กับผู้ซื้อรายเดียว จนทำให้หลังจากเปิดตลาดสูงสุดของวัน และเมื่อผ่านไป 20 นาที ราคาหุ้นทยอยปรับตัวลงจนฟลอร์ที่ราคา 1.95 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7,161 ล้านบาท

นายภากร ยังตั้งข้อสังเกตที่บ่งชี้ถึงความผิดปกติว่า หลังจากมีคำสั่งซื้อล็อตใหญ่เข้ามาในช่วงเปิดตลาด ก็ไม่มีการซื้อขายในครั้งละมากๆอีกเลย ซึ่งทาง ตลท.ก็ได้มีการแจ้งเตือนไปยังสมาชิกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นของราคาหุ้น MORE จนกระทั้งมาถึงวันที่ 11 พ.ย. 65 ราคาหุ้นของ MORE เปิดตลาดก็เกิดการฟลอร์ต่อเนื่องลงมาปิด 1.37 บาท โดยมีมูลค่าซื้อขายเบาบางมากเพียง 133 ล้านบาท ซึ่งต่างจากวันที่ 10 พ.ย. 65 ที่มีมูลค่าซื้อขายหุ้นตัวเดียวกว่า 7,000 ล้านบาท ดังนั้น ตลท.และสมาชิกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย หรือ แอดสโก มีการทำงานรวมกันตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 65 โดยมีการรวบรวมข้อมูลการซื้อขาย MORE ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการตรวจสอบธุรกรรมที่ต้องสงสัย

โดยขณะนี้ ตลท.และแอดสโก สามารถรวบรวมข้อมูลในการซื้อขายหุ้น MORE ครั้งนี้ได้มากกว่า 50% แล้ว และพบหลักฐานที่ชัดเจนว่า มีการกระทำความผิดไม่ปกติ ดังนั้นมีความมั่นใจว่าวันศุกร์ 18 พ.ย. 65 นี้ จะสามารถได้ข้อสรุปทั้งหมด เพื่อส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

“ผมย้ำว่าขอให้โอกาส รวบรวมข้อมูล และหากใครมีข้อมูลก็สามารถมาเปิดเผยได้ เรายังให้โอกาสทุกคนที่มีข้อมูลเปลี่ยนจากจำเลย มาเป็นพยานในเรื่อง ก็สามารถเข้ามาให้ข้อมูลโดยติดต่อได้ผ่านทาง www.set.or.th/contactcenter หรือ โทรศัพท์มาให้ข้อมูลที่หมายเลข 02 009 9999 เพื่อนำมารวบรวมส่งพนักงานสอบสวนต่อไป พร้อมย้ำว่าทาง ตลท.มีข้อมูลพร้อมเดินหน้าต่อไป” นายภากร กล่าว

ด้านนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ MORE เกิดขึ้น ได้มีการประสารงานกับ ตลท. และผู้ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบธุรกรรม จนพบว่าเกิดความ อย่างไรก็ตามสำหรับการทำธุรกรรมใดๆของผู้ไม่เกี่ยวข้อง ทางโบรกฯ ได้เริ่มดำเนินการจ่ายเงินให้กับลูกค้าเรียบร้อย ยกเว้นคำสั่งซื้อที่มีปริมาณหุ้นจำนวนมาก จนเกิดความน่าสงสัย ทางโปรกฯ ได้ข้อเวลาดำเนินการตรวจสอบก่อนจ่ายเงินให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมย้ำว่า เหตุการณ์ยังไม่ได้มีผลกระทบในวงกว้าง

ทั้งนี้ ทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยรวมกับ ตลท. ได้มีการประสารไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้ว และทยอยเข้าแจ้งความและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของ ปอศ.แล้ว

Back to top button