ดีเดย์! เม่าหยุดเทรดวันนี้ หลังรัฐบาล “ตู่” ลั่นเก็บภาษีขายหุ้นแน่

“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลังในรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” เดินหน้าขยี้ตลาดหุ้น ลั่น! เก็บภาษีขายหุ้นแน่ ไม่สนรายย่อยประท้วงหยุดเทรดวันนี้ รวมถึงบุคคลในวงการตลาดทุน นักวิชาการ ที่ออกมาค้าน ด้าน TDRI เผยรัฐได้เงิน 1-2 หมื่นล้านบาท แต่มูลค่าหลักทรัพย์ตลาดหุ้นเกือบ 20 ล้านล้านบาทต้องพัง! ส่วนความเห็นรายย่อยในโซเชียลยังเดือด บอกนี่คือการไล่ออกจากอาชีพเทรดเดอร์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เตรียมการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหลักทรัพย์ หรือ “ภาษีขายหุ้น” และคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงเดือนเมษายน 2566 ท่ามกลางเสียงคัดค้านของบุคคลในวงการตลาดทุน และในวันนี้กลุ่มนักลงทุนรายย่อย ต่างนัดที่จะหยุดการเทรดหุ้น เพื่อเป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีดังกล่าวนั้น

ล่าสุดนายอาคม เผยว่า กรณีประธานและสมาชิกสภาธุรกิจตลาดทุนไทยค้านเก็บภาษีขายหุ้น และเร่งหารือสมาชิกทำสมุดปกขาวร้องรัฐทบทวนภาษีนั้น ตนยังไม่ได้รับจดหมาย จึงยังไม่เห็นว่า จะมีข้อร้องเรียนใด ๆ และทางครม.ก็เห็นชอบหลักการไปแล้ว คงต้องยึดตามนั้น

ขณะที่นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยเช่นว่า กรณีภาษีขายหุ้น จากการหารือของสมาคมฯ พบว่า เบื้องต้นจะกระทบกับสภาพคล่องการซื้อขายประมาณ 20-30% จากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยในปัจจุบัน

ส่วนนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด, นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และอดีตประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า สภาพคล่องที่ลดลงย่อมมีผลกระทบต่อเนื่อง โดยกระทบไปถึงนักลงทุนทั่วๆไป ในการซื้อขายหุ้นจะไม่คล่องตัวเท่าเดิม รวมถึงกระทบไปสู่ภาคธุรกิจเวลาเข้ามาระดมทุน หรือออกไอพีโอ ก็อาจทำไม่ดีเท่าเดิม

ด้านนายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ระบุว่า จากกรณีการเก็บภาษีขายหุ้น หากพิจารณาจากเกณฑ์การเก็บในหลายประเทศทั่วโลกที่มีเหมือนกันนั้น ก็อาจสอดคล้องกัน แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นไทยเงียบเหงาลง ซึ่งเมื่อตลาดเงียบเหงา ก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้วย

โดยสาเหตุที่ไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีตรงนี้ แม้เป็นการเก็บในอัตราที่ไม่มากนัก พิจารณาจาก 0.1% จะสร้างรายได้จากภาษี 10,000-20,000 ล้านบาทเท่านั้น เทียบกับมูลค่าตลาดกว่า 20 ล้านล้านบาท โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นกระทบกับกลุ่มคนที่พยายามต่อสู้เอาตัวรอดในการสร้างรายได้เพิ่ม ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ประเทศไทยในตอนนี้มีความบิดเบี้ยวอยู่

ทั้งนี้ จากการเข้าไปดูการแสดงความคิดเห็นของนักลงทุนรายย่อยในโซเชียลต่าง ๆ มีการแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วย และขอแสดงสิทธิคัดค้านการออกกฎหมายภาษีขายหุ้นที่ไม่เป็นธรรมฉบับนี้ ด้วยการหยุดส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นเป็นเวลา 1 วันพร้อมกันทั้งประเทศในวันนี้

Back to top button