บลจ.กสิกรไทย ดึง “อดิศร” นั่งประธานบอร์ด โยก “วศิน” กลับแบงก์

บลจ.กสิกรไทย ดึง “อดิศร เสริมชัยวงศ์” นั่งประธานบอร์ด แทน "วศิน วณิชย์วรนันต์ " กลับไปรับตำแหน่ง “รองกรรมการผู้จัดการ” KBANK นำทัพลุยพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล ขยายฐานลูกค้า ขับเคลื่อนธุรกิจโตยั่งยืน มีผลวันนี้ 3 ม.ค.66


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนสิกรไทย จำกัด ได้ประกาศแต่งตั้ง นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร แทน นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ที่กลับไปรับตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK โดยมติคณะกรรมการกำหนดให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

โดยนายอดิศร เป็นผู้บริหารที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเงินมากว่า 27 ปี มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทั้งในธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ รวมถึงธนาคารโดยจะเข้ามาดูแลรับผิดชอบใน 3 ธุรกิจของบลจ.กสิกรไทย ทั้งกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

พร้อมขับเคลื่อนและผลักดันให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนอีกทั้งยังให้การสนับสนุนและส่งเสริมการจัดจำหน่ายโดยเน้นการเป็นที่ปรึกษา (Advisor) เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและคู่ค้ารวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง

“การเข้ามาร่วมงานกับ บลจ.กสิกรไทยในครั้งนี้ถือเป็นภารกิจใหม่ที่ท้าทายท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว”

นอกจากนั้นตลาดยังมีความผันผวนอยู่สูง แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส ซึ่งถ้าเรามองเห็นโอกาสนั้นก่อนย่อมได้เปรียบ ดังนั้นจึงตั้งใจเข้ามาสานต่อสิ่งที่ บลจ.กสิกรไทย ทำได้ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งกองทุนให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการ การบริหารจัดการกองทุนให้ได้ผลการดำเนินงานที่ดีในทุกสภาวะตลาด การเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนอย่างจริงใจและตรงไปตรงมาทั้งกับลูกค้าและคู่ค้ารวมถึงการพัฒนาช่องทางการลงทุน โดยเฉพาะช่องทางดิจิทัลให้ใช้งานได้สะดวกเข้าได้กับคนทุกวัยทุกไลฟ์สไตล์ซึ่งทั้งหมดจะต้องอาศัยความร่วมมือของทีมงานในบริษัททุกคน โดยผมจะนำเอาทุกประสบการณ์การทำงานที่สั่งสมมาผสมผสานให้เข้ากับยุคสมัยและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปพร้อมกัน” นายอดิศรกล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย ยังคงรักษาแชมป์ด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวม โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 1.37 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจกองทุนรวม 9.57 แสนล้านบาท ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2.28 แสนล้านบาท และธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล 1.87 แสนล้านบาท (ที่มา : AIMC ข้อมูลกองทุนรวม ณ พ.ย. 65 และข้อมูลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนส่วนบุคคล ณ ต.ค. 65)

Back to top button