SECURE มั่นใจรายได้ปี 66 โตแตะ 1 พันล้าน อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น

SECURE มั่นใจรายได้ปี 66 โต 10-15% จากปีก่อน รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น เล็งเปิดตัวพาร์ทเนอร์ใหม่ปลายเดือนนี้


นายนักรบ เนียมนามธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) หรือ SECURE เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 66 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 10-15% จากสัญญาณที่ดีในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา โดยรายได้รวมจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 1 พันล้านบาท หลังปัญหาเรื่องชิปขาดแคลนเริ่มคลี่คลาย และลูกค้าเริ่มเห็นถึงความสำคัญในธุรกิจดิจิตอลมากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทยังมองหาพาร์ทเนอร์ใหม่ต่อเนื่อง คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงปลายเดือนนี้ ส่วนการควบรวมกิจการ (M&A) บริษัทวางแผนว่าจะมีประมาณ 1-2 ดีลต่อปี

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 9 เดือนแรกของปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 590 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 25.40 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของบริษัท เนื่องจากเป็นช่วงปิดงบของทางรัฐบาลและเอกชน

โดยก่อนหน้านี้ นายนักรบ ตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายและบริการปี 65 ที่ระดับ 900 ล้านบาท จากปี 2564 ที่มีรายได้จากการขาย และบริการที่ระดับ 826 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากสภาวะชิปขาดตลาด แต่การขยายตัวของประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่เมืองอัจฉริยะ การบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) IoT Device และ Data Center ส่งผลให้องค์กรต่าง ๆ มีแผนขับเคลื่อนด้าน Cybersecurity ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัท อีกทั้งจะมุ่งเน้นขยายงานด้าน Software มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากแรงกดดันสภาวะชิปขาดตลาด ที่ทำให้งานในส่วนของ Hardware ส่งมอบล่าช้าไปบ้าง

นายนักรบ กล่าวว่า ในปี 2565 บริษัทมีโปรดักต์ใหม่ และบริการใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตต่อเนื่อง ได้แก่ Okta, Cymulate, FILECLOUD, MENLO Security, ARISTA และ Allied Telesis เห็นได้ว่ามีโปรดักต์ที่เกี่ยวข้องกับ Software มากขึ้น และเป็นโปรดักต์ที่จะเข้ามาสร้างรายได้ให้กับบริษัทในอนาคตได้พอสมควร ส่วนเรื่องการควบรวม หรือซื้อกิจการ (M&A) ยังคงมองหาโอกาส และเจรจาอยู่หลายราย ซึ่งยังคงเน้นธุรกิจเกี่ยวข้องกับ Cybersecurity เป็นหลัก

ด้านความคืบหน้าของศูนย์ให้บริการ Defenza Lab ปัจจุบันก่อสร้างและทดลองใช้งานเรียนร้อยแล้ว โดยกำหนดเปิดให้บริการเป็นทางการในเดือน ต.ค. 2565 นี้ ส่วนการร่วมงานกับทางบริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) หรือ HUMAN ที่ถือหุ้นบริษัทอยู่ 4.9% ยังคงร่วมทำงานหลายด้าน

Back to top button