“กรภัทร” มอง SET พักฐาน แนะจับตา “ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ” คืนนี้!

“กรภัทร วรเชษฐ์ ” มอง SET พักฐาน แนะเก็บ GULF, GPSC, SCGP, CPALL, CRC, MAKRO, OSP, CBG, BBL, KBANK, SCB  หุ้นแกร่งน่าทยอยสะสม


นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ ( 12 ม.ค. 66) ว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยเป็นการพักฐาน วางกรอบแนวรับที่ระดับ 1,677 จุด  ส่วนแนวต้านที่ระดับ 1,695 -1,703 จุด เนื่องจากต้องรอดูประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐเดิมอยู่ที่ 7.1% เหลือ 6.5% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.3% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน ถ้าเป็นไปตามคาดการณ์ตลาดอาจวิ่งเชิงบวกต่อสะท้อนการปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

นอกจากนี้ คาดว่า CPI เงินเฟ้อสหรัฐอาจจะอยู่แค่ 6.3% เช่นเดียวกับตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานอาจเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ถ้าเป็นไปตามคาดการณ์ในวันพรุ่งนี้ ก็จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นอาจทำให้มีแนวโน้มวิ่งมากกว่า 2%

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำว่านักลงทุนควรรอจังหวะตลาดแกว่างตัวไซด์เวย์พยายามประคองตัวสร้างฐาน ดังนั้นให้นักลงทุนหาจังหวะตั้งรับหุ้น หรือทยอยสะสม และอาจเป็นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้น ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP

ส่วนแนะนำหุ้นกลุ่มค้าปลีกบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)หรือCPALL, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO

นอกจากนี้ยังมีหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังน่าลงทุน ได้แก่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP และ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB

อย่างไรก็ตามในส่วนของประเด็น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เข้าซื้อหุ้นบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ทาง นายกรภัทร วรเชษฐ์  มองว่าการที่ตลาดเก็งราคาสูงในวันนี้ ที่ระดับ 9.3% – 8.7% อาจทำให้หุ้น ESSO มีผลตอบรับเชิงลบ ส่วนหุ้น BCP แนะเก็งกำไรเชิงบวก

อีกทั้งแนะจับตาช่วงตลาดเปิด ในเรื่องของแหล่งเพิ่มเงินทุน  หรือฐานทุน รวมถึงโครงสร้าง ส่วนการเข้าเทกโอเวอร์กิจการ ESSO มองว่า ธุรกิจมีจุดเติบโตได้ และอยู่ในจุดทรานเฟอร์อย่างน้อย 5 ปี และอนาคตมองว่าจะกลายเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ขนาดใหญ่ ที่จะมีรายได้ค่าเช่าเข้ามาเพิ่ม

ส่วนของประเด็น บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI สำหรับโปรเจกต์มูนซูล ประเมินเบื้องต้นถึงสัดส่วนการถือครอง ยอดสุทธิอยู่ที่ราว 16% คาดเพิ่มมูลค่าราว 0.5 – 1 บาท ถือว่ายังมีทิศทางเปอร์เซนต์บวก แนะรอผลประเมินอัฟไซด์ในระยะกลาง-ระยะยาว

 

Back to top button