เทียบฟอร์ม 10 หุ้นทีวีดิจิทัล BEC แชมป์ “มาร์เก็ตแคป” ทะลุ 2 หมื่นล้าน

เทียบฟอร์ม 10 หุ้นทีวีดิจิทัล BEC แชมป์ “มาร์เก็ตแคป” ทะลุ 2 หมื่นล้านบาท จับตาปี 66 จัดเต็มส่งละคร-วาไรตี้-เกมโชว์ ชิงเรตติ้งกระฉูด!


ในช่วงปี 65 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยคลี่คลายอย่างมาก ทำให้ให้เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น หนุนภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัว และเม็ดเงินโฆษณาที่ทยอยปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมสื่อทีวีดิจิทัลฟื้นตัวตามไปด้วย ทั้งนี้อ้างอิงจากข้อมูล “นีลเส็น” หนึ่งในบริษัทวิจัยการตลาด และตรวจวัดข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค เปิดเผยว่ามูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วงม.ค.-พ.ย.65 ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าอยู่ที่ 108,467 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาในเดือนพ.ย.65 เพิ่มขึ้น 10.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสื่อทีวีดิจิทัล ยังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 53%

นอกจากนั้นรายงานสภาพตลาดกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ประจำเดือนพ.ย.65 พบว่า ช่องรายการที่ได้รับความนิยมสูงสุด 10 อันดับแรก คือ ช่อง 7HD (อันดับ 1) ช่อง 3HD (อันดับ 2) ช่อง One (อันดับ 3) ช่อง Mono 29 (อันดับ 4) ช่องเวิร์คพอยท์ ทีวี (อันดับ 5) ช่องไทยรัฐทีวี (อันดับ 6) ช่อง AMARIN TV HD (อันดับ 7) ช่อง True4U (อันดับ 8) ช่อง 8 (อันดับ 9) และช่องพีพีทีวี (อันดับ 10) ตามลำดับ

ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในกลุ่ม “ทีวีดิจิทัล” โดยเป็นการเปรียบเทียบแสดงให้เห็นถึงข้อมูลรายได้ กำไรสุทธิ และมาร์เก็ตแคปของแต่ละบริษัทฯ อาทิ ONEE, BEC, NATION, AMARIN, JKN, RS, WORK, MONO, MCOT และ GRAMMY

หลักทรัพย์ รายได้รวม (ลบ.) กำไรสุทธิ (ลบ.) สินทรัพย์รวม (ลบ.) หนี้สินรวม (ลบ.) D/E (เท่า) มาร์เก็ตแคป (ลบ.)
BEC 3,924.61 458.17 9,712.39 3,606.68 0.59              22,000.00
ONEE 4,780.54 593.32 9,294.95 2,306.15 0.33              19,050.00
RS 2,630.78 149.73 7,362.59 5,365.79 2.69              15,948.95
GRAMMY 3,530.85 -81.76 5,484.68 4,092.74 2.94                8,363.49
WORK 1,751.32 135.18 5,220.07 685.66 0.15                8,124.71
AMARIN 3,070.44 378.24 6,125.29 1,522.35 0.33                6,538.74
MONO 1,546.88 60.33 4,508.34 3,050.19 2.09                5,623.11
MCOT 1,016.84 -69.97 10,078.74 3,383.37 0.51                3,353.04
JKN 1,617.64 175.47 8,908.68 5,629.59 1.72                2,551.66
NATION 754.91 429.07 1,015.65 575.16 1.31                   488.15

บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 การันตีความนิยมด้วยเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับ 2 ประจำเดือนพ.ย.65 ซึ่งรายการ “โหนกระแส” เป็นอีกหนึ่งรายการทอล์กชื่อดังที่ร่วมตีแผ่ประเด็นร้อนในสังคมขณะนั้น ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35-13.15 น. โดยได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมอย่างล้นหลาม จนขึ้นท็อปเทรนทวิตเตอร์แทบไม่เว้นวัน

ทั้งนี้ บล.เอเซียพลัส มองแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/65 น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/65 จากรายได้โฆษณาที่ปรับตัวขึ้น แม้ในเชิงของราคาขายโฆษณาอาจไม่ได้ปรับขึ้นเนื่องจากอัตราการใช้สื่อยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ โดยไตรมาส 4/65 จะมีรายได้จากธุรกิจภาพยนตร์เรื่อง “บัวผันฟันยับ” ที่คาดหวังรายได้ 150-200 ล้านบาท เข้ามาช่วยประคองกำไร ในส่วนของต้นทุน ยังคงดำเนินใช้กลยุทธ์การนำละครเก่ามารีรันเพื่อประหยัดต้นทุน และเพื่อให้สอดรับกับเม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวี โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.70 บาท

สำหรับปี 66 ฝ่ายวิจัยคาดหวังจะเห็นพัฒนาการที่สำคัญใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในเชิงของการคำนวณเรทติ้งในรูปแบบใหม่ หรือ “Cross-Platform on Measurement” ซึ่งน่าจะทำให้ราคาขายโฆษณาของ BEC มีโอกาสปรับขึ้นได้ โดยในปีนี้ BEC คาดหวังว่าจะสามารถปรับราคาขายโฆษณาต่อนาทีในปีหน้าขึ้นได้ 5-15% สำหรับบางรายการที่มีอัตราการใช้เวลาโฆษณาสูง ช่วยหนุนกำไรให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง ประกอบกับการลงคอนเทนต์ใหม่ให้กับ OTT Platform ที่มีมากขึ้น น่าจะช่วยหนุนรายได้ธุรกิจ Digital+GCL

ส่วนบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ในฐานะเจ้าของช่อง “ONE31” ซึ่งกระแสละครฮิตติดลมบนไม่แพ้ช่องอื่น ไม่ว่าจะเป็น “สิเน่หาส่าหรี” ละครแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ “คุณชาย” ละครดราม่าสุดเข้มข้นขนทัพนักแสดงทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มาถ่ายทอดบทบาทสุดท้าทาย เป็นต้น ส่วนในปี 66 เตรียมพบกับละครคุณภาพที่ทาง ONEE คัดสรรมาอย่างดี ทั้ง “VIP รักซ่อนชู้” ละครดราม่าที่ได้พระเอกฝีมือขั้นเทพ อย่าง “ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” มารับบทนำ, “รัก…ร้าย” กระแสแรงเกินต้าน ตั้งแต่ปล่อยภาพฟิตติ้ง เป็นต้น

ทั้งนี้ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดการณ์กำไรของ ONEE ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เนื่องจากในเดือน ธ.ค. ทั้งช่อง One31 และ GMM25 ได้ถ่ายทอดฟุตบอลโลก 6 แมตซ์ ช่วยหนุนเม็ดเงินโฆษณาได้บ้าง  ส่วนในปี 66 คาดเม็ดเงินโฆษณาจะกลับมาฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น รวมทั้งร่วมมือกับสตูดิโอที่เกาหลีใต้ “SBS” ผลิตคอนเทนต์คาดจะออกอากาศทั้งไทยและเกาหลีใต้ได้ปลายปี2566 ซึ่งเป็นการเพิ่มฐานผู้ชมไปในต่างประเทศ และโอกาสในการรับจ้างผลิตและขายลิขสิทธิ์มีมากขึ้นจากการเปิดตัว OTT แพลนฟอร์มต่างประเทศในไทย จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12 บาท

ด้านสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 หนึ่งในธุรกิจเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS โดยในปี 66 ได้นำรายการวาไรตี้ทอล์ค “คนดังนั่งเคลียร์” ดำเนินรายการโดย อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ กลับมาออกอากาศอีกครั้ง ประเดิมเทปแรกด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษ อย่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาเคลียร์ประเด็นร้อนแรงที่กำลังเป็นข้อถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างร้อนแรง นอกจากนั้นยังเตรียมผังละครพล็อตเรื่องน่าติดตาม โดยคว้านักแสดงระดับแนวหน้ามาลงจอให้ชมตลอดปี 66 หวังเพิ่มเรตติ้ง ขยายฐานผู้ชมบริษัท

โดยบล.คิงส์ฟอร์ด แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น RS ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 16.70 บาท งวดไตรมาส 3/65 รายได้เติบโตได้ดีทั้งธุรกิจ Media & Entertainment และธุรกิจ Commerce ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/65 จะเห็นการเติบโตต่อเนื่องภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce โดยธุรกิจ Event จะกลับมาจัดคอนเสิร์ต และกิจกรรมทางการตลาด

ขณะที่ช่อง “GMM25” บริหารงานโดย บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ONEE ก็จัดเต็มทุกวาไรตี้ ซีรี่ย์ ละครทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ได้กระแสตอบรับอย่างร้อนแรง ส่งผลให้นักแสดงรุ่นใหม่หลายคนได้แจ้งเกิดดังเป็นพลุแตก กรอบโกยเรตติ้งเข้าช่องต่อเนื่อง

จากข้อมูลช่องรายการที่ได้รับความนิยมประจำเดือนพ.ย.65 จะพบว่า ช่อง “MONO29” บริหารงานโดยบริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO มีเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับที่ 4 โดยช่อง MONO29 คัดสรรหนังดังซีรี่ย์คุณภาพทั้งไทยและต่างชาติ นำมาถ่ายทอดให้กับผู้ชมได้รับชมอัดแน่นตลอดทั้งวัน

ส่วนช่อง “WORKPOINT” มีเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับที่ 4 โดยจากข้อมูลงบการเงินไตรมาส 3/65 ของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK พบว่ามีรายได้จากธุรกิจรายการโทรทัศน์เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบจากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้ช่อง “WORKPOINT” เพิ่มขึ้น จากรายได้โทรทัศน์ซึ่งได้รับความนิยมอย่างเนื่อง อาทิ ไมค์หมดหนี้เสี่ยงโชค, นักร้องข้ามกำแพง The Wall Song และเพชรตัดเพชร เป็นต้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำการผลิตคอนเทนต์รายการวาไรตี้เกมส์โชว์ชั้นนำของไทย

ขณะที่ช่อง “Amarin เอชดี ช่อง 34” หนึ่งในธุรกิจเครือบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN มีเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับที่ 4 และจากข้อมูลงบการเงินไตรมาส 3/65 ยังคงรักษาระดับการเติบโตของรายได้จากธุรกิจสื่อทีวีดิจิทัลไว้ได้ โดยในปี 65 นี้ เตรียมจัดหนักจัดเต็มคอนเทนต์ข่าวหลากหลายรสชาติ ครบทุกอารมณ์ เจาะลึกทุกประเด็นกระแสร้อนทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมส่งซีรี่ย์วายสนุกครบรส ทั้ง รักชอบเจ็บ Hit Bite Love, Love Syndrome รักโคตรๆ โหดอย่างมึง และ Partner in Crime อาชญากรรมรักนักกฎหมาย สอดรับกระแสซีรี่ย์วานฟีเวอร์

Back to top button