“อุตุ” เตือนไทยตอนบน “อากาศแปรปรวน” – ใต้ฝนหนัก 14-17 ก.พ.นี้

“กรมอุตุนิยมวิทยา” เตือนวันที่ 14-17 ก.พ.66 สภาพอากาศไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ขณะที่ภาคใต้มีฝนเพิ่มและมีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือ


กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประเทศไทยตอนบนให้ระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวนในช่วงวันที่ 14-17 ก.พ.66 เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศลาวแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในวันนี้ และจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.66)

ขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ประกอบกับในช่วงวันที่ 16-17 ก.พ.66 จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ

โดยลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส

ส่วนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้

วันที่ 14 ก.พ.66

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ, สกลนคร, นครพนม, มุกดาหาร, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อำนาจเจริญ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดนครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, และตราด

วันที่ 15 ก.พ.66

ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, และตาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

วันที่ 16-17 ก.พ.66

ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, แพร่, น่าน, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์ พิจิตร, กำแพงเพชร, สุโขทัย และตาก

ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, ระนอง และพังงา

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 15-17 ก.พ.66 ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทย ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

Back to top button