ตลท. ประกาศ 12 “บจ.” ติดอันดับความยั่งยืนปี 66 ระดับ “Gold Class”

ตลท. ประกาศ 12 บริษัทจดทะเบียนติดรายชื่ออันดับความยั่งยืน S&P Global Sustainability Awards ปี 66 ระดับ “Gold Class”


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนธุรกิจให้บูรณาการแนวทางความยั่งยืนในการดำเนินงาน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจและประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนไทยเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยจำนวนมากอยู่ในดัชนีความยั่งยืนระดับสากลทั้ง MSCI, FTSE และ S&P Global อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกภาคส่วน “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone”

ขณะที่ล่าสุดการประกาศ The Sustainability Yearbook 2023 โดย S&P Global บริษัทไทยได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class จำนวน 12 บริษัทได้แก่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUEE, บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU, บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI, และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

โดยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก สะท้อนถึงความโดดเด่นของธุรกิจไทยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันจากทั่วโลก ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอชื่นชมความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนไทย

ทั้งนี้ S&P Global เป็นผู้จัดทำดัชนีที่ผู้ลงทุนทั่วโลกใช้ในการวิเคราะห์และพิจารณาตัดสินใจลงทุน การได้รับจัดอันดับจะสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทำให้บริษัทอยู่ในสายตาของผู้ลงทุนทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมี 5 บริษัทจดทะเบียนไทยที่เป็น Industry Mover คือมีพัฒนาการโดดเด่น มีคะแนนการประเมินความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งได้แก่ AWC, CRC, SCGP, VGI และ WHA ด้วย” นายภากรกล่าว

ทั้งนี้ S&P Global ได้ประเมินความยั่งยืนบริษัททั่วโลก 7,822 บริษัท โดยมี 710 บริษัทที่ได้รับการประกาศใน The Sustainability Yearbook 2023 ในจำนวนนี้เป็นบริษัทไทย 37 บริษัทซึ่งมากเป็นอันดับ 5 ของโลก การประกาศยังแบ่งการจัดอันดับเป็น 4 ระดับ ได้แก่ Gold, Silver, Bronze และ Member โดยระดับ Gold Class มีบริษัทไทย 12 บริษัท ลำดับที่สองคือสหรัฐอเมริกา 11 บริษัท ลำดับสามคือไต้หวันและอิตาลี 7 บริษัท

โดยในปีนี้ S&P Global ได้เพิ่มเกณฑ์การคัดกรองด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้นสอดคล้องกับแนวทางการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ โดยจะไม่ประกาศรายชื่อบริษัทในอุตสาหกรรมยาสูบ (Tobacco) และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงที่มาจากถ่านหิน (Coal & Consumable Fuel) ใน The Sustainability Yearbook 2023 ทั้งนี้ รายชื่อบริษัทดังกล่าวจะถูกนำไปคัดเลือกเพื่อเข้าสู่ดัชนีด้านความยั่งยืนต่างๆ ของ S&P Global ทั้ง Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) และ S&P ESG Index Family ต่อไป

Back to top button