“บล.พาย” คัด 23 หุ้น “Domestic Play” รับเศรษฐกิจฟื้น

“บล.พาย” คัด 23 หุ้น “Domestic Play” BBL, KBANK, SCB, TTB, TISCO, BJC, CRC, CPALL, HMPRO, AOT, MINT, SHR, VRANDA, CPN, MAJOR, BEM, BGRIM, GPSC, GULF, RATCH, ICHI, M และ COM7 รับเศรษฐกิจฟื้น วางกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,590 – 1,630 จุด


บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ Pi” ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บรรยากาศการลงทุนเริ่มดูผ่อนคลายมากขึ้นจากการปรับขึ้นของ Dow Jones ในวันศุกร์ (3 มี.ค.66) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปรับตัวขึ้นได้เป็นส่วนใหญ่ มองการปรับฐานลงมาของ SET INDEX จากจุดสูงสุดถึงล่าสุดราว 4.6% Price In ประเด็นลบด้านผลประกอบการและตอบรับกับเงินเฟ้อสหรัฐฯไปพอสมควร ขณะเดียวกัน US Bond Yield ก็เริ่มชะลอตัวลง จึงเชื่อว่า SET จะเริ่มฟื้นตัวได้บ้างแต่ยังให้น้ำหนักเป็นเพียงการฟื้นตัวช่วงสั้นเนื่องจากระยะถัดไปยังเต็มไปด้วยหลายความเสี่ยง

โดยสัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญติดตาม (1) วันอังคารประธาน FED กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินครึ่งปีต่อคณะกรรมการใน Washington DC เชื่อว่าตลาดจะไปให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ย หากส่งสัญญาณผ่อนคลายตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวต่อ (2) วันพุธสหรัฐฯ มีกำหนดรายงานการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP Bloomberg คาดไว้ที่ 1.95 แสนราย หากต่ำกว่าคาดจะเป็นบวกกับตลาดหุ้น (3) การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์ เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสำคัญเพราะมีผลสูงกับตลาด Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.06 แสนราย อัตราการว่างงานที่ 3.4% หากต่ำกว่าคาดจะยิ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น

สำหรับ Sector ที่น่าสนใจในการ Trading ในการฟื้นตัวมองไปที่ Domestic Play เนื่องจากทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศค่อนข้างชัดเจน เชิงกลยุทธ์เลือก Bank (BBL, KBANK, SCB, TTB, TISCO), ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO), ท่องเที่ยว (AOT, MINT, SHR, VRANDA), ศูนย์การค้า (CPN), โรงภาพยนตร์ (MAJOR), ขนส่ง (BEM), โรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH), เครื่องดื่ม (ICHI), ร้านอาหาร (M), สินค้า IT (COM7) ประเมินกรอบ SET สัปดาห์นี้ที่ 1,590 – 1,630 จุด

AOT แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 78 บาท โดยราคาหุ้นปรับฐานลงมาจนเริ่มน่าสนใจสำหรับ Trading ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่งซึ่งผลประกอบการกำลังฟื้นตัวตามการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยคาดว่าผลประกอบการจะเห็นการฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไปที่จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาอย่างมาก ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3/66 จะสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการแล้วทำให้จะเก็บการก้าวกระโดดของผลประกอบการอย่างมาก

CPN แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 83 บาท โดยในแง่การดำเนินงาน CPN ได้รับผลดีจากมาตรการเปิดประเทศของจีนที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างมาก โดยปี 66 ทางฝ่ายวิจัยประเมินรายได้อยู่ที่ 40,917 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 12,855 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปี 62 แล้ว ส่วนกำไรงวดไตรมาส 4/65 ออกมาใกล้เคียงคาดที่ระดับ 2,800 ล้านบาท

Back to top button