BIS ส่ง “นิคอินเตอร์เทค” ลุยขายส่งเภสัชภัณฑ์ ตีตลาดเมียนมาร์

BIS จัดตั้ง “นิคอินเตอร์เทค” ลุยธุรกิจขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ “เมียนมาร์” รุกขยายตลาด CLMV ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านไบโอเท็คภูมิภาคอาเซียน


นสพ.ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIS เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีมติให้บริษัท นิวทริชั่น อิมพรูฟเมนท์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จํากัด (มหาชน) ดำเนินการจัดตั้ง บริษัท นิคอินเตอร์เทค (เมียนมาร์) จํากัด ดำเนินธุรกิจขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ เป็นบริษัทย่อยของบริษัท นิวทริชั่น อิมพรูฟเมนท์ จํากัด ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่กับ The Directorate of Investment and Company Administration (DICA) within the Government of the Republic of the Union of Myanmar’s Ministry of Investment and Foreign Economic Relations (MIFER) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้บริษัท นิคอินเตอร์เทค (เมียนมาร์) จํากัด ดำเนินธุรกิจขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ โดยมีทุนจดทะเบียน 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 100 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 800 ดอลลาร์สหรัฐ โครงสร้างการถือหุ้นบริษัท นิวทริชั่น อิมพรูฟเมนท์ จํากัด จะถือหุ้น 70% ของทุนจดทะเบียน

นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นของนักลงทุนชาวพม่าช่วยประสานงานกับหน่วยงานราชการ ตลอดจนดูแลและรับผิดชอบ supplier และลูกค้าท้องถิ่น โดยถือหุ้น 20% ของทุนจดทะเบียน และ นายพงษ์ศักดิ์ แสนกล้า ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในตลาดท้องถิ่น ด้านธุรกิจเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์
โดยถือหุ้น 10% ของทุนจดทะเบียน

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้เป็นเงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งแรก

ดังนั้นจึงถือได้ว่า นิคอินเตอร์เทค (เมียนมาร์) เป็นไปตามแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านไบโอเท็คประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนที่เติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องด้วยเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านอย่าง CLMV (กัมพูชา ลาว สหภาพเมียนมาร์ และเวียดนาม) ในปีนี้จะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น สวนกระแสเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แม้ว่าการเติบโตจะยังต่ำกว่าศักยภาพเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ก็ตาม แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าเมียนมาร์จะขยายตัวได้ถึง 3%

สำหรับเมียนมาร์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าสนใจต่อนักลงทุน เพราะศักยภาพของตลาดในประเทศมีการขยายตัวต่อเนื่อง มีสนธิสัญญาการค้าเสรีต่างๆ กับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ  สามารถเป็นฐานการผลิตไปตลาดใหญ่อย่างอินเดียและจีน รวมถึงส่งออกสินค้าที่ต้นทุนต่ำกลับมาไทย นอกจากนี้ยังสามารถเป็นแหล่งกระจายสินค้าที่นำเข้าจากไทยได้อีกด้วย ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันบริษัทยังมีความได้เปรียบในตลาดที่มีคู่แข่งน้อยกว่าและค่าแรงของตลาดเมียนมาร์

นิคอินเตอร์เทค (เมียนมาร์) จัดตั้งขึ้นอย่างถูกต้องในประเภทธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ และทางการแพทย์ โดยมีเป้าหมายเป็นฐานรากของการขยายธุรกิจอื่นในอนาคต เพื่อให้บริการลูกค้าทุกกลุ่มในภูมิภาคอาเซียนอย่างทั่วถึง ด้วยคุณภาพการกระจายสินค้า การสนับสนุนด้านเทคนิคบริการหลังการขายและกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม โดยครอบคลุมตลาดปศุสัตว์ สัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นผู้นำในการจัดหานวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับการบริการเทคโนโลยีขั้นสูงในภาคสุขภาพสัตว์” นสพ.ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ กล่าวปิดท้าย

Back to top button