ผู้ถือหุ้น BIOTEC ไฟเขียวออกหุ้นกู้ 1 พันล้าน พ่วงแจก BIOTEC-W2 ลุยต่อยอดกลีเซอรีน

ผู้ถือหุ้น BIOTEC ไฟเขียวออกหุ้นกู้ 1 พันล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจ พร้อมแจก BIOTEC-W2 ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% เดินหน้าต่อยอดกลีเซอรีน รับดีมานด์พุ่ง


นายรุ่งนิรันดร์ ตั้งสุรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอ กรีน เอ็นเนอร์ยี่ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ BIOTEC เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 มีมติอนุมัติให้บริษัทจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 1,018,600,762 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (BIOTEC-W2) พร้อมทั้งอนุมัติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทครั้งที่ 2 (BIOTEC-W2) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท จำนวนไม่เกิน 1,018,600,762 หน่วย ตามสัดส่วนการจัดสรรในอัตรา 3 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ และ 3 หุ้นบุริมสิทธิเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ

สำหรับผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ BIOTEC-W2 สามารถใช้สิทธิแปลงทั้งจำนวนได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม, เดือนมิถุนายน, เดือนกันยายน และเดือนธันวาคม ตามอายุไม่เกิน 2 ปี 10 เดือน นับแต่วันที่ออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยมีอัตราการใช้สิทธิ เท่ากับ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น และราคาการใช้สิทธิ 0.50 บาท

นอกจากนี้ ได้อนุมัติออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินรวมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัท และบริษัทในเครือ หรือใช้เพื่อเข้าลงทุนเพิ่มเติมบริษัทในเครือ หรือในธุรกิจอื่นๆ สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวมีอายุไม่เกิน 5 ปี

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทเดินหน้าปรับกลยุทธ์แบบเชิงรุกในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และกลีเซอรีน โดยมีการพัฒนาต่อยอดในส่วนธุรกิจด้านกลีเซอรีน เนื่องจากเล็งเห็นว่าผลิตภัณฑ์กลีเซอรีนบริสุทธิ์ มีดีมานด์ความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดในต่างประเทศ อาทิ จีน, เกาหลี, ไต้หวัน เป็นต้น เพราะกลุ่มประเทศดังกล่าวมีความต้องการนำกลีเซอรีน  บริสุทธิ์ ไปผสมในกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ ดังนั้นบริษัทจึงสบช่องทางในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อเพิ่มมาร์จิ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทในอนาคต

ดังนั้นเมื่อนำกลีเซอรีนดิบ เข้าสู่กระบวนการกลั่นออกมาเป็นกลีเซอรีนบริสุทธิ์ เพื่อจำหน่ายสำหรับใช้เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารเคมี อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร, เวชภัณฑ์, เครื่องสำอางค์, และสบู่ จะสามารถสร้างเพิ่มมูลค่ากลีเซอรีนบริสุทธิ์ ได้สูงขึ้นกว่า 3 เท่าตัว จากเดิมที่จำหน่ายกลีเซอรีนดิบได้ในราคาต่ำ

ทั้งนี้ จากแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจในปี 2566 ส่งผลให้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,455 ล้านบาท และมีกำไรสูงอยู่ที่ 163 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทได้สยายปีกต่อยอดธุรกิจสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์  โดยล่าสุดศึกษาการลงทุนในโครงการพัฒนาและนำเข้าลิเธียมแบตเตอรี่ ประเภท Solid-state battery เพื่อเป็นระบบอุปกรณ์กักเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์สำหรับการใช้งานในภาคครัวเรือน รวมถึงสถานีชาร์ตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าตามสถานีน้ำมัน และในอนาคตจะร่วมกันศึกษาในเฟส 2 ในความร่วมมือก่อสร้างโรงงานประกอบชิ้นส่วน Battery Energy Storage ในประเทศไทย

สำหรับการที่บริษัทลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นถึง เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีการมุ่งเน้นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด แทนการพึ่งพิงกระบวนการผลิตแบบเดิมจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อม

อีกทั้งยังเป็นการลดภาระค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านพักอาศัยให้มีราคาต่ำลงที่สำคัญ ยังสนับสนุนเป้าหมายบริษัทฯเติบโตและพัฒนาสู่ความยั่งยืนในระยะยาว เนื่องจากการเข้าไปลงทุนดังกล่าวเป็นการกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบในอุตสาหกรรมไบโอดีเซล รวมถึงลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการแทรกแซงของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในอนาคต

Back to top button