YGG จ่อปล่อย “เกม” กลางปีนี้ ดันรายได้โต 20%

YGG ไตรมาส 1/66 กวาดกำไร 30 ลบ. งานเกมโตเด่น รายได้พุ่ง 161% จ่อเปิดตัวเกมใหม่กลางปีนี้ ดันรายได้โต 20% ตามเป้า


นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1/2566 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2566 มีรายได้รวม 90.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2565 โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 31.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 34.79 % ของรายได้รวม

โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้ จากส่วนงานเกม 27.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 161.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณการรับจ้างผลิตเกมในปี 2566 ที่เติบโตสูงขึ้นกว่าในปี 2565 ด้านสัดส่วนรายได้จากส่วนการจัดจำหน่ายเกมที่เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทลดลง เนื่องจากเป็นช่วงของการพัฒนาและวางกลยุทธ์ทางการตลาดของเกมใหม่ เพื่อเตรียมจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ด้านงานด้านภาพยนตร์แอนิเมชั่น มีรายได้จำนวน 34.10 ล้านบาทลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยังเป็นช่วงของการผลิตของโปรเจคใหม่ซึ่งมาจากการการต่อยอดจากฐานลูกค้าต่างประเทศ ขณะที่งานด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิกมีรายได้ 28.64 ล้านบาท ลดลง 43.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 51.08 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1/2565 บริษัทมีปริมาณงานโปรเจคใหญ่จากลูกค้ารายใหญ่ อย่างไรก็ตามในไตรมาส 1/2566 บริษัทมีปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าต่าง ประเทศ แต่เพิ่งเริ่มทยอยรับรู้รายได้

ไตรมาสแรกปีนี้ ผลการดำเนินงานยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะงานเกมที่เติบโตได้ดีจากการรับจ้างผลิตเกม  ช่วงครึ่งหลังปีนี้จะมีเปิดตัวเกมใหม่ๆ ตัวเลขน่าจะสวยกว่านี้  ส่วนของคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ยังมีปริมาณงานเพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าต่างประเทศ รายได้ก็เริ่มทยอยเข้ามา งานทุกส่วนของ YGG มีหลายๆ โปรเจคอยู่ในระหว่างการพัฒนาและเตรียมเปิดตัว  โดยเฉพาะงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น ที่จับมือกับพันธมิตรด้านเอนเตอร์เทนเมนท์ยักษใหญ่จากจีน เกาหลีใต้ ที่จะเปิดตัวซีรี่ส์การ์ตูที่เป็นโปรเจคใหญ่ในเร็ว ๆ นี้  ทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2566 จะเติบโตต่อเนื่องประมาณ 15-20%” นายธนัช กล่าว

นายธนัช กล่าวอีกว่าในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทมีต้นทุนรวมในการขายหรือให้บริการจำนวน 50.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนของปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากในส่วนจำนวนพนักงาน ตามแผนการขยายธุรกิจของบริษัท และในส่วนของการจ้าง Outsource รับงาน เพื่อให้งานเสร็จได้ตรงตามกำหนด และได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นเดือนมี.ค.2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 679.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.79 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินตามงวดงานการเก็บชำระจากลูกหนี้การค้า ส่วนอาคารและอุปกรณ์

Back to top button