“ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” ร่วง 200 จุด หวั่น “เฟด” เร่งขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขจ้างงานพุ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ดิ่งลงกว่า 200 จุด หลังภาคเอกชนสหรัฐมีการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

โดย ณ เวลา 19.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 232 จุด หรือ 0.67% สู่ระดับ 34,277 จุด

อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของบริษัท เมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้นเกือบ 2% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังบริษัทเปิดตัว “เธรดส์”  (Threads) แอปพลิเคชันน้องใหม่ที่จะมาท้าชน “ทวิตเตอร์” (Twitter) ของนายอีลอน มัสก์

ด้าน ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. โดยการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกือบ 500,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ถือเป็นการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ค.65

ทั้งนี้ ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 373,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 124,000 ตำแหน่ง

ขณะที่นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 90% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำเดือนมิ.ย.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%

ด้านเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.วานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกมากกว่า 1 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

โดยในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.6% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอยู่ในกรอบ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้