“โกลเบล็ก” คัด 7 หุ้นรับมาตรการกระตุ้น “เศรษฐกิจ” ชู CPAXT-STEC-CK เด่น

GBS มองกรอบดัชนี 1,520-1,600 จุด แนะลงทุน 7 หุ้นเด่นได้ประโยชน์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล TNP-KK- CPALL-CPAXT-STEC-CK และ ITD


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนจากการเมืองในประเทศที่มีเสถียรภาพมากขึ้น หลังสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นและคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงให้กรอบการแกว่งตัวของดัชนีที่ 1,520-1,600 จุด

ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) แถลงสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ๊กสัน โฮส รัฐไวโอมิง ส่งสัญญาณขึ้นหรือคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเพื่อสกัดเงินเฟ้อแม้ว่าจะชะลอตัวลงแต่ยังคงอยู่ที่ระดับสูง ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 78.5% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 21.5% ที่ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%  สำหรับการประชุมในเดือนพฤศจิกายน นักลงทุนให้น้ำหนัก 51% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% และให้น้ำหนักเพียง 38% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ขณะที่ให้น้ำหนัก 11% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.75-6.00%

ด้านเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวกว่าคาด ขณะที่กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนในเดือนกรกฎาคม ปรับตัวลง 6.7% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 7 เนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์ ส่วนเศรษฐกิจในประเทศ ธปท.เตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจในเดือนก.ย. จากการส่งออกที่ชะลอตัวและภาระหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงฉุดกำลังซื้อ รวมทั้งการที่ตลท.สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-25 สิงหาคม 2566 พบว่านักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิสูงถึง 1.31 แสนล้านบาท เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยในปีนี้

ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ วันที่ 31 สิงหาคม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม ส่วนปัจจัยต่างประเทศ อาทิ วันที่ 29 สิงหาคม สหรัฐฯ รายงานราคาบ้านเดือนมิถุนายน ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนกรกฎาคม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนสิงหาคม จาก Conference Board วันที่ 30 สิงหาคม. สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค. GDP ไตรมาส 2/66 (ประมาณการครั้งที่ 2) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนกรกฎาคม และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 31 สิงหาคม จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนสิงหาคม และอียู รายงานอัตราว่างงานเดือนกรกฎาคม พร้อมทั้งสหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนกรกฎาคม ส่วนวันที่ 19-20 กันยายน กำหนดประชุม FED ครั้งถัดไป

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนใน 7 หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ได้แก่ TNP, KK, CPALL, CPAXT, STEC, CK และ ITD และหุ้นได้ประโยชน์จากกรณีญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีลงทะเล ได้แก่ TU, ASIAN, TC และ CFRESH

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินภาพรวมทองคำสัปดาห์นี้ว่า ยังคงต้องจับตาการประกาศตัวเลขภาคแรงงานและดัชนีเงินเฟ้อส่วนบุคคลของสหรัฐ หากตัวเลขที่ประกาศออกมาสูงกว่าคาดการณ์จะมีผลให้ FED คงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปจะเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ

ฝ่ายวิจัยประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังทรงตัวเหนือระดับ 3% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ 2% เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและทรงตัวเหนือ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยระหว่างสัปดาห์มองราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,885-1,930$/oz คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้

Back to top button