COCOCO เคาะราคาไอพีโอ 5.50 บ. เปิดจอง 4-6 ก.ย.นี้

COCOCO กำหนดราคาเสนอขายไอพีโอ อัตราหุ้นละ 5.50 บาท เปิดจองซื้อ 4-6 ก.ย. 66 โดยมี บล.บียอนด์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย คาดว่าจะสามารถเข้าเทรด SET ภายในเดือนก.ย.นี้


นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม หรือ Joint Lead Underwriters เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO จำนวน 370 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E ratio) เท่ากับ 22 เท่า และกำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 4-6 ก.ย. 66 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือนก.ย. 66 ในหมวดธุรกิจ (Sector) อาหารและเครื่องดื่ม และใช้ชื่อย่อในการซื้อขาย คือ COCOCO”

“COCOCO ได้ยื่นเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 370 ล้านหุ้น มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดย COCOCO มีความโดดเด่น ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว เป็นธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์สุขภาพ ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลก มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาตค” นายชัยพัชร์ กล่าว

นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) BYD ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า COCOCO มีผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม หรือ Joint Lead Underwriters จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท UOBKH และ บริษัท BYD

พร้อมกันนี้ ได้แต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 5  ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

อีกทั้ง COCOCO เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่น่าสนใจ โดยกำหนดราคาไอพีโอที่ 5.50 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานบริษัทฯ ที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในด้านรายได้และความสามารถในการทำกำไร จึงมั่นใจว่า COCOCO จะเป็นหลักทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

ด้าน ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO ผู้ผลิต-จำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า COCOCO จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโต และก้าวไปข้างหน้าบนเวทีโลก โดยจะสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับประเทศไทยผ่านผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ Thaicoco ด้วยความมุ่งมั่น พร้อมความรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อม และมีธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค และผู้ถือหุ้น COCOCO นับจากนี้ไป

“การนำ COCOCO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET ครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจของ COCOCO ที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดความสำเร็จสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ จึงเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะให้ความสนในจองซื้อหุ้น IPO อย่างคึกคัก” ดร.วรวัฒน์ กล่าว

สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว COCOCO โดยซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อผลิตน้ำมะพร้าว เพื่อขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวจากประมาณ 110,000 ตัน/ปี เป็น 218,000 ตัน/ปี รวมถึงขยายคลังสินค้าเพื่อรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว นอกจากนี้ ยังซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในผลิตภัณฑ์ขนมกินเล่นของสุนัขและแมว รวมถึงซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในไอศกรีม

ขณะที่ นางสาวพัฒรา ทัศจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและสารสนเทศ บริษัท COCOCO กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 3 ปีย้อนหลังปี 63-65 พบว่าบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 3,022 ล้านบาท 3,454 ล้านบาท และ 3,364 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 69.46 ล้านบาท 241.88 ล้านบาท และ 302.22 ล้านบาท ตามลำดับ และมีอัตรากำไรสุทธิ 2.29%, 6.95% และ 8.94% ตามลำดับ

โดยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/66  มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 1,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.59% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 848 ล้านบาท และในงวดไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 130.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.39% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายน้ำมะพร้าวไปยังประเทศจีนสูงขึ้น และสินค้าน้ำมะพร้าวเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าสินค้าประเภทกะทิ ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเติบโตที่โดดเด่น

ทั้งนี้ นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิน พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท COCOCO กล่าวปิดท้ายว่า ไทย โคโคนัท มีกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และจุดโดดเด่นของ COCOCO คือ ศักยภาพของการเติบโตในอนาคต โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ที่รายได้ของบริษัทฯ เติบโต จาก demand ตลาดจีนเพิ่มขึ้น สำหรับน้ำมะพร้าวและกำไรโดดเด่น โดยเป็นสิ่งที่จะสะท้อนถึงโอกาสการเติบโตในอนาคต

Back to top button