YONG แย้ม Q3 โตต่อ รับดีมานด์คอนกรีตพุ่ง ตุนแบ็กล็อก 663 ล้าน

YONG มองทิศทางไตรมาส 3/66 โตต่อ รับยอดดีมานด์ธุรกิจคอนกรีตฟื้นตัว และแรงหนุนจาก 2 โรงงานใหม่ ตุนแบ็กล็อกมูลค่ากว่า 663 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 75%


นายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ YONG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ และให้บริการติดตั้งโครงสร้างสำเร็จรูป ร่วมให้ข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ถ่ายทอดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยถึง แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 (สิ้นสุด 30 ก.ย. 66) คาดว่าบริษัทฯจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/66 และเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา เนื่องจากดีมานด์ของธุรกิจผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จฟื้นตัว และได้รับแรงสนับสนุนจาก 2 โรงงานใหม่ ที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และ อ.บางเลน จ.นครปฐม สนับสนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถรองรับออเดอร์ที่เข้ามาได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ด้วยจุดแข็งจากการมีโรงงานทั้งหมด 7 แห่ง (ไม่รวมสำนักงานใหญ่) อยู่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี, จ.นครปฐม, จ.นนทบุรี และ จ.ชลบุรี พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าในงานเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐบาลและเอกชน ที่ทยอยออกมาในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ  เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจ สนับสนุนรายได้ในอนาคตเติบโตได้แข็งแกร่ง

ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ากว่า 663 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 75% และคาดครึ่งปีหลังฟอร์มยังดี เติบโตต่อเนื่อง สนับสนุนปี 66 รายได้เติบโต 12-15% จากปีก่อน พร้อมวางเป้าหมายในการก้าวสู่ผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์คอนกรีต สร้างการเติบโตของผลการดำเนินงาน ควบคู่การพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การบริการ และการขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับงานโครงการทั้งภาครัฐบาลและเอกชนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ด้วยการบริหารงานอย่างมืออาชีพ ดังวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์คอนกรีตด้วยนวัตกรรม มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ สู่มาตรฐานระดับสากล

“ปีนี้มองว่าจะเป็นอีกปีที่ดีของ YONG ภายใต้การดำเนินธุรกิจครอบคลุม 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1) ส่วนงานผลิตคอนกรีต 2) ส่วนงานรับเหมาติดตั้ง และ 3) ส่วนงานธุรกิจขนส่ง ทำให้เราสามารถสร้างรายได้ครอบคลุมทุกมิติแบบ 360 องศา จากความพร้อมในการขยายกำลังการผลิต ทำให้บริษัทฯ สามารถรองรับการขยายงานของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กำลังเดินหน้าภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ ส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นในภาคการลงทุน และภาคงานก่อสร้างที่คาดว่าจะมีการเดินหน้าโครงการใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง”  นายสรรเพชญ กล่าว

Back to top button