สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ต.ค.2566

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ต.ค.2566


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนประเมินการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานบ่งชี้ว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนก.ย.ขณะที่การขยายตัวของค่าจ้างชะลอลง และอัตราว่างงานที่สูงกว่าคาดในรายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรนั้น จะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานพุ่งขึ้นเกินคาดก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,407.58 จุด เพิ่มขึ้น 288.01 จุด หรือ +0.87%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,308.50 จุด เพิ่มขึ้น 50.31 จุด หรือ +1.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,431.34 จุด เพิ่มขึ้น 211.51 จุด หรือ +1.60%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ แต่ตลาดหุ้นยุโรปยังติดลบในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังคงตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงต่อไปอีกนาน

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 444.93 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด หรือ +0.82% แต่ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,060.15 จุด เพิ่มขึ้น 61.90 จุด หรือ +0.88%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,229.77 จุด เพิ่มขึ้น 159.55 จุด หรือ +1.06% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,494.58 จุด เพิ่มขึ้น 43.04 จุด หรือ +0.58%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินที่ปรับตัวขึ้น แต่ตลาดยังคงร่วงลงรุนแรงในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,494.58 จุด เพิ่มขึ้น 43.04 จุด หรือ +0.58%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มปริมาณน้ำมันตึงตัวในตลาดโลก แต่ราคาน้ำมันยังคงลดลงอย่างมากในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า ราคาน้ำมันที่อาจพุ่งถึงระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลนั้นกำลังส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 82.79 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 8.8% ในรอบสัปดาห์นี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 84.58  ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 8.3% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและจากการดีดตัวขึ้นทางเทคนิคหลังร่วงลง 9 วันติดต่อกัน แม้การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและทำให้ราคาสัญญาทองคำยังคงลดลงในรอบสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อก็ตาม

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 13.40 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,845.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 70.40 เซนต์ หรือ 3.35% ปิดที่ 21.723 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 19.00 ดอลลาร์ หรือ 2.20% ปิดที่ 881.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18.20 ดอลลาร์ หรือ 1.59% ปิดที่ 1163.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอีกเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (6 ต.ค.) แม้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดก็ตาม โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วงแรกขานรับการขยายตัวของการจ้างงานในเดือนก.ย. เป็นเดือนที่ 33 ติดต่อกัน

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.28% แตะที่ระดับ 106.0454

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร, ปอนด์, ฟรังก์สวิส, ดอลลาร์แคนาดา และโครนาสวีเดน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยน

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0591 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กในวันศุกร์ (6 ต.ค.) จากระดับ 1.0550 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (5 ต.ค.) ขณะที่เงินปอนด์ของอังกฤษแข็งค่าขึ้นแตะ 1.2244 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2194 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.9094 ฟรังก์สวิสในวันศุกร์ จาก 0.9129 ฟรังก์สวิสในวันพฤหัสบดี, ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 1.3655 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3713 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ10.9390 โครนาสวีเดน จากระดับ 11.0066 โครนาสวีเดน

Back to top button