คัด 16 หุ้นรับประโยชน์ ครม.เคาะ 5 มาตรการ “กระตุ้นเศรษฐกิจ”

เปิดโผกลุ่มหุ้นได้ประโยชน์ ครม.เคาะ 5 มาตรการ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” ชูกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม ได้แก่ AOT-CENTEL- ERW- MINT-AAV รวมถึงกลุ่มค้าปลีก CPAXT- HMPRO- COM7- CRC- CPALL-BJC- CBG และกลุ่มเช่าซื้อ TIDLOR- MTC- SAWAD- BAM เป็นต้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประเด็นที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา ซึ่งมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมด 5 มาตรการ ดังนี้ 1. มาตรการด้านภาษีและการเงินเพื่อสนับสนุนสินค้าไทยให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว

2. มาตรการปรับปรุงโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิต และภาษีอื่นๆ รวมทั้งปรับปรุงกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว ให้สินค้าและบริการบางประเภทมีราคาจูงใจ เช่น การลดภาษีสินค้าแบรนด์เนม

3.พิจารณาความเหมาะสมในการยกเลิกการอนุญาตจัดตั้งร้านค้าปลอดภาษี (DUTY FREE) ขาเข้า เพื่อส่งเสริมการใช้สินค้าภายในประเทศ 4. การผ่อนปรนเวลาเปิด-ปิดของสถานบริการถึงเวลา 4:00 น. เพื่อกระตุ้น การใช้จ่ายต่อวันของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เพิ่มมากขึ้น และ 5. การยกเว้นการตรวจตราเพื่อการท่องเที่ยว (VISA FREE) ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมการเดินทางเข้าในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นอกจากนี้ ยังมีการเห็นชอบปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐฯ บรรจุใหม่ขึ้นปีละ 10% ภายใน 2 ปี, ป.ตรี เริ่มต้น 18,000 บาท, ปวช. เริ่มต้น 11,000 บาท

สำหรับประเด็นดังกล่าว คาดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตดีขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี 2567 ทั้งจากภาคการบริโภคในประเทศ และภาคท่องเที่ยว

ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้ประโยชน์ คือ กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV

รวมทั้งกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC,  บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG

ขณะเดียวกันมีกลุ่มเช่าซื้อ ได้แก่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD และ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เป็นต้น

ขณะที่ประเด็นที่ทุกคนให้ความสนใจ คือ โครงการ E-REFUND และ DIGITAL WALLET ที่รอความคืบหน้าจากการประชุม ครม.ในครั้งถัดๆ ไป ซึ่งคาดจะเป็นตัวช่วยหนุนหลักให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโตได้ 5% ดังที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้

Back to top button