“เอกภาวิน” ชู 7 หุ้นเด่น ลุ้นฟันด์โฟลว์ไหลเข้า

“เอกภาวิน สุนทราภิชาติ” แนะเก็บหุ้นกลุ่ม “บิ๊กแคป” รับอานิสงส์ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า ชู BBL- KTB- BGRIM- GULF- PTTGC- IVL-SCC พร้อมให้กรอบดัชนีแนวรับที่ 1,370-1,380 จุด แนวต้านที่ 1,400-1,410 จุด


นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (18 ธ.ค. 66) จากการประชุมเรื่องของนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้ข้อสรุปว่าจะทำการยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและมีการลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปี 2567 ส่งผลให้น้ำหนักของการลดอัตราดอกเบี้ยจะเร็วขึ้น จากเดือน พ.ค. เป็นเดือน มี.ค. จึงมีส่วนช่วยในการหนุนเม็ดเงินของฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาสู่ตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีความกังวลเล็กน้อยจากการที่ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ได้ออกมาเผยถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะเกิดขึ้นเร็วไป และมองว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันยังสามารถที่จะควบคุมเงินเฟ้อได้ และเศรษฐกิจยังไม่ได้มีการชะลอตัว ผนวกกับ PMI ร่วมประจำเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ มีค่าสูงสุดในรอบ 5 เดือน แต่ภาพร่วมก็ยังคงตอบรับกับประเด็นการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้อยู่

ส่วน SET Index ยังมีการคาดหวังกับตัวเม็ดเงินจากการตั้งกองทุน TESG ที่จะเริ่มเข้าในช่วงสัปดาห์นี้จนถึงสิ้นปี ซึ่งภาพรวมตลาดยังคงดีอยู่แต่อาจจะมีการชะลอตัวลดความร้อนแรงลงบ้าง โดยมองกรอบดัชนีวันนี้ให้แนวรับที่ 1,370-1,380 จุด และแนวต้านที่ 1,400-1,410 จุด อีกทั้งเชื่อว่าดัชนีจากนี้ก็น่าจะเริ่มดีขึ้นและเป็นโอกาสในการซื้อสะสมได้

นอกจากนี้ยังได้ให้กรอบดัชนีปิดปี 2566 ไว้ที่แนวต้าน 1,430 จุด และคาดการณ์เป้าในปี 2567 ที่กรอบแนวต้าน 1,650 จุด

สำหรับเชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะนำเก็งกำไร “หุ้นกลุ่มบิ๊กแคป” โดยมองว่าในปี 2567 ฟันด์โฟลว์จะไหลเข้ามาในปีหน้า ซึ่งภาพรวมของตลาดหุ้นเอเชียจะมีการเติบโตมากกว่าตลาดหลัก อย่างเช่น ตลาดยุโรปเศรฐกิจในปีหน้าอาจจะถดถอยลงมาที่ -0.1% หรือเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แทบจะไม่เติบโตเลย จึงมองว่าตลาดหุ้นเอเชียน่าจะเป็นตัวดึงดูดด้านอัพไซต์

โดยได้แนะนำหุ้นกลุ่มธนาคารได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB  ทั้งยังแนะนำหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่บอนยีลด์เป็นขาลงและได้ประโยชน์เช่นเดียวกัน ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM

พร้อมกันนี้ยังได้แนะนำหุ้นกลุ่มที่มีผลการดำเนินงานที่เริ่มฟื้นตัวเด่น อย่างพวกปิโตรฯ ได้แก่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC , บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตได้ดีจากอานิสงส์ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า

ส่วนของกรณี บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ที่มีข่าวว่าอาจจะมีการหลุดจาก SET50 ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดมีการผันผวนอยู่ แต่ก็ยังคงเชื่อว่าเม็ดเงินจาก TESG ที่จะช่วยประคองดัชนีได้และความผันผวนก็ยังอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อมองภาพรวมแล้วยังคงมองดัชนีเป็นภาพที่ดี

Back to top button