DITTO ทุ่ม 847 ล้าน รุกถือหุ้นใหญ่ NETBAY 24.90% ต่อยอดธุรกิจ “ดาต้า”ครบวงจร

บอร์ดไฟเขียว DITTO เข้าถือหุ้น NETBAY สัดส่วน 24.90% มูลค่า 846.60 ล้านบาท จาก “พิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์” โดยชำระค่าด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนออกใหม่ 33.20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 25.50 บาท เตรียมชงผู้ถือหุ้นไฟเขียวมติเพิ่มทุน 5 กุมภาพันธ์ 2567 ด้าน “ฐกร” ย้ำเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดธุรกิจดาต้าครบวงจร


บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2566 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 และอนุมัติให้บริษัทฯเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY จำนวน 49,800,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.90 ของทุนจดทะเบียนชาระแล้ว ในราคาหุ้นละไม่เกิน 17.00 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 846,600,000 บาท โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ NETBAY จากนายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ (“นายพิชิตฯ”) ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ และบริษัทฯจะชำระค่าตอบแทนในการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ NETBAY จากนายพิชิตฯ ด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของบริษัทฯจำนวนไม่เกิน 33,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 25.50 บาท รวมเป็นมูลค่าไม่เกิน 846,600,000 บาท ซึ่งราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนหุ้นละ 25.50 บาท ดังกล่าวเป็นราคาเสนอขายตามราคาตลาดที่มีส่วนลดไม่เกินร้อยละ 10 ของราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้า หนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่คณะกรรมการมี

นอกจากนี้มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 12,513,755 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 395,592,661.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 383,078,906.50 บาท โดยตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายจำนวน 25,027,510 หุ้น ซึ่งเป็นหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายที่สำรองไว้เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผลตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 จำนวน 27,510 หุ้น และเพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 จำนวน 25,000,000 หุ้นออก

อีกทั้งมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 16,600,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจานวน 383,078,906.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จานวน 399,678,906.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจานวน 33,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบกำ หนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่นายพิชิตฯ ซึ่งเป็นบุคคลในวงจา กัด (Private Placement) เพื่อชำระเป็นค่าตอบแทนในการซื้อหุ้นสามัญของ NETBAY จำนวนไม่เกิน 33,200,000 หุ้น

นอกจากนี้มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 33,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน โดยเสนอขายให้แก่นายพิชิตฯ ซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อชำระเป็นค่าตอบแทนจากการเข้าซื้อหุ้นใน NETBAY จากนายพิชิตฯ ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะสิ้นสุดภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567

ทั้งนี้คณะกรรมการมีมติอนุมัติให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.30 น. ถึง 16.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เพียงช่องทางเดียว ตามพระราชกาหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 และกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และกำหนดให้วันที่ 4 มกราคม 2567 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 (Record Date)

ด้านนายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DITTO เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท DITTO เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY จำนวน 49,800,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 24.90% ของทุนชำระแล้ว ในราคาหุ้นละไม่เกิน 17 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน  846,600,000 บาท โดยบริษัทชำระค่าตอบแทนหุ้นสามัญของ NETBAY ด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ จำนวนไม่เกิน 33,200,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 25.50 บาท

สำหรับวัตถุประสงค์ในการเข้าลงทุนใน NET BAY ครั้งนี้ เนื่องจากเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับระบบบริหารจัดการข้อมูลที่ DITTO ดำเนินการอยู่ โดย NET BAY ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการคิดค้นสร้างสรรค์ และพัฒนา Digital Business Technology Platform ในการทำธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ และนำเสนอผลิตภัณฑ์นั้นแก่ผู้ใช้ในรูปแบบการให้บริการแบบครบวงจร ครอบคลุมระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ (B2G) ระหว่างภาคธุรกิจกับภาคธุรกิจ (B2B) และระหว่างภาคเอกชนกับผู้บริโภค (B2C) ในการลงทุนครั้งนี้นอกจากจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของบริษัทแล้ว ยังทำให้ DITTO เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับ DATA แบบครบวงจรในทุกมิติเพื่อบริการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน  นายฐกร กล่าว

นายฐกร กล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อกลางปีนี้ DITTO ได้เข้าลงทุนในบริษัท โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIT สัดส่วน 18% ซึ่ง โสมาภา ได้รับสัญญาจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ในการบริหารจัดการระบบคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกของสนามบินของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ระยะเวลายาวจนถึงปี 71 ส่วนรายได้คิดจาก Transaction ของจำนวนผู้โดยสาร ดังนั้นทาง DITTO คาดว่าจะยังสามารถสร้างส่วนแบ่งกำไรให้กับบริษัทที่เข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่องและถือเป็นแรงสนับสนุนการเติบโตของบริษัทอีกทางหนึ่ง

ส่วนเป้าหมายในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท เนื่องจากมีงานในมือ (Backlog) ที่ทะยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ อยู่ราว 5.3 พันล้านบาท คาดว่าในปี 2567 บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 1ใน 3 ของตัวเลขมูลค่างานในมือเกือบทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทยังมีงานที่จะเข้าประมูลและรับงานใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมรายได้ในอนาคตอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักของบริษัทประกอบด้วย 1) กลุ่มธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลซึ่งเป็นการแปลงเอกสารและข้อมูลสู่ระบบดิจิทัลครบวงจร 2 กลุ่มวิศวกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรม 3)กลุ่มธุรกิจ Climate tech ที่จะเป็นธุรกิจหลักในอนาคต และ 4) กลุ่มธุรกิจให้เช่าและจำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ ไดรฟ์ทรูและให้บริการระบบจำหน่ายสินค้าหน้าร้าน (POS) ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของทางบริษัท

“สำหรับการย้ายเข้าไปทำการซื้อขายของหุ้น DITTO จากปัจจุบันที่ซื้อขายในตลาด เอ็มเอไอ (MAI)  ไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวนั้น ล่าสุดได้มีการยื่นแบบคำขอเรื่องดังกล่าวต่อทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยและดำเนินการได้ในต้นปีหน้า” นายฐกร กล่าว

Back to top button