NUSA แจงปมถูกฟ้อง “ขายทรัพย์สิน” ยันบริสุทธิ์ใจ หาเงินจ่ายหนี้ตามนัด 2.6 พันล้าน

"วิษณุ-ศิริญา" แจงปมขายทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 1.1 หมื่นล้าน ยันบริสุทธิ์ใจ ทำเพื่อจ่ายหนี้ที่ครบชำระปี 67 ราว 2.5 พันล้านเท่านั้น ส่วนราคาขายยืนยันสูงกว่ามูลค่าตลาดแน่นอน


นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการบริษัท และนางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ชี้แจงกรณีความขัดแย้งของสองกลุ่มผู้บริหารหลัก คือ นายวิษณุ และ นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ผู้บริหารจากบริษัทพลังงานรายใหญ่ บริษัท วินเอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ที่เพิ่งเข้ามาถือหุ้นเมื่อไม่นานมานี้ จนเกิดคดีความฟ้องร้องกัน

ด้าน นายวิษณุ ชี้แจงเกี่ยวกับการจำหน่ายทรัพย์สิน 6 รายการ รวมมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท (รายละเอียดตามตารางด้านล่างนี้) ว่า การขายทรัพย์สินดังกล่าวเป็นการขายเพื่อจัดการภาระหนี้สินที่ครบกำหนดชำระ ซึ่งบริษัทจะจำหน่ายในสัดส่วนที่เพียงพอต่อการชำระหนี้เท่านั้น ซึ่งอาจจะมีเพียงแค่ไม่กี่รายการ และมีเงื่อนไขในการขายคือต้องได้ราคาที่ไม่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี หรือราคาใดราคาหนึ่งที่มีมูลค่าสูงกว่า

(รูปตารางสินทรัพย์)

โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้ทั้งหมดราว 5 พันล้านบาท และมีหนี้ที่จะครบชำระในปี 67 ราว 2.5-2.6 พันล้านบาท ซึ่งรวมหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระ ราว 500-600 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้สินโดยตรงของสินทรัพย์รายการต่างๆ ข้างต้นมียอดรวมประมาณ 2.67 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 47% ของยอดรวมภาระหนี้สินของบริษัท ทั้งนี้ฝ่ายบริหารประเมินค่าเฉลี่ยของการจำหน่ายสินทรัพย์เพื่อจัดการภาระหนี้สินทั้ง 6 รายการ เมื่อเทียบกับราคาตลาดของทรัพย์สินข้างต้นอยู่ที่ระดับประมาณ 35% สะท้อนถึงสถานะการเงินของบริษัทที่มีความมั่นคง เพราะมียอดรวมทรัพย์สินที่มีตัวตนสูงกว่าภาระหนี้สินโดยรวมอย่างมาก

โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตในยอดทรัพย์สินประมาณ 50% นอกจากนี้ฝ่ายบริหารสามารถบริหารจัดการหุ้นกู้โดยไม่มีการผิดนัดชำระหนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นจึงขอชี้แจงว่า ข่าวกรรมการบริษัทบางรายถูกฟ้องร้องกรณีขายสินทรัพย์บริษัท ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงดังกล่าว

นายวิษณุ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนธุรกิจในปี 67 คาดการณ์ว่าจะแถลงแผนรวมถึงข่าวดีในช่วงเดือน ม.ค.นี้ โดยตั้งเป้าหมายเปิดตัวโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 โครงการ มูลค่าโครงการละไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งโครงการแรกคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 1/67 ในพื้นที่เขาใหญ่ ส่วนโครงการที่ 2 จะเปิดตัวราวไตรมาส 2 หรือ 3 ในย่านศรีราชา ที่บริษัทมีที่ดินพร้อมพัฒนาเรียบร้อยแล้ว

พร้อมกันนี้ยังมองว่าปี 67-68 จะเป็นปีของการเติบโตของบริษัท ซึ่งหากแผนการรวมกับ WEH สะดุด บริษัทมีแผนในการขยายธุรกิจไปในส่วนของเวลเนส รวมถึงรุกหนักในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งหากบริษัทได้มีการขายสินทรัพย์ไปบางส่วนแล้วทำให้บริษัทไม่มีภาระดอกเบี้ย จะมีโอกาสทำให้ผลประกอบการของบริษัทเทิร์นอะราวด์กลับมาได้

Back to top button