“ก.ล.ต.” ปรับเกณฑ์รับฝาก “สินทรัพย์ดิจิทัล” มีผลตั้งแต่ 16 ม.ค.67

“ก.ล.ต.” ปรับปรุงหลักเกณฑ์ผู้รับฝาก โทเคนดิจิทัลและคลายเกณฑ์รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล หวังไม่สร้างภาระ-ต้นทุนเพิ่ม พร้อมเดินหน้ากำกับดูแลคุ้มครองผู้ลงทุน หนุนการนำเทคโนโลยีใช้เพื่อพัฒนาประเทศ มีผล 16 ม.ค. 67


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (18 ม.ค. 67) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนในโทเคนดิจิทัล (Asset Backed Token) และการให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงหลักเกณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้มีกลไกการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเพียงพอและเหมาะสม อีกทั้งสามารถคุ้มครองผู้ลงทุนพร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการระดมทุนเพื่อพัฒนาประเทศ โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 67

โดยตามที่คณะกรรมการ (ก.ล.ต.) ในการประชุมครั้งที่ 5/66 เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 66 มีมติเห็นชอบหลักการในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนในโทเคนดิจิทัลการให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล และหลักเกณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้มีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เพียงพอเหมาะสมสอดรับกับความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัล

อีกทั้งควบคู่กับการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการระดมทุน โดยยังคงสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเติบโตของตลาดทุนและเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน และ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศแล้วเสร็จเมื่อเดือนก.ย 66 โดยผู้แสดงความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการและร่างประกาศดังกล่าว

ทั้งนี้ (ก.ล.ต.) จึงออกประกาศเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการลงทุนในโทเคนดิจิทัล การให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล และหลักเกณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.การกำกับดูแลการออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (investment token) โดยยกเลิกการจำกัดการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยสำหรับโทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์หรือกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินอ้างอิง (real-estate backed ICO)

รวมถึงโทเคนดิจิทัลที่มีกิจการโครงสร้างพื้นฐานหรือกระแสรายรับจากกิจการโครงสร้างพื้นฐานเป็นทรัพย์สินอ้างอิง (infra-backed ICO) จากเดิมจำกัดการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยไม่เกินรายละ 300,000 บาทต่อการเสนอขาย เพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์และส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการระดมทุน

2.การทบทวนหลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้มีผู้ประกอบธุรกิจประเภทผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล (custodial wallet provider) และสามารถให้บริการแก่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเกี่ยวข้องกันในลักษณะที่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมกันได้ หากเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทย่อยตามที่กำหนด และอยู่ในกลุ่มบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์และความพร้อมในการจัดเก็บหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินทางการเงินอื่นของลูกค้าและในการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ความเป็นอิสระต่อกันตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด

3.ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ประสงค์จะประกอบกิจการอื่น กำหนดให้ต้องขออนุญาตจาก ก.ล.ต. ก่อนดำเนินการ เพื่อให้สามารถติดตามการประกอบกิจการอื่นดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4.การปรับปรุงมาตรฐานในการให้บริการ โดยผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องไม่ให้บริการผ่านผู้ประกอบการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อยกระดับคุณภาพและเพิ่มความน่าเชื่อถือของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม

นอกจากนี้การออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 67 เป็นต้นไป

Back to top button