5 โบรกเคาะราคาเหมาะสม NAT สูงสุด 8.90 บาท ชี้โอกาสคว้างานใหม่สูง

“บียอนด์” มองราคาเหมาะสม NAT สูงสุด 8.90 บาท เชื่อหลังเข้าตลาดฯ หนุนโอกาสคว้างานที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ ทั้งในส่วนของงานวางระบบ และงานติดตั้งอุปกรณ์


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับหุ้นไอพีโอน้องใหม่ บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT หลังเตรียมเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เร็วๆ นี้ โดยมีนักวิเคราะห์ 5 แห่งที่มีการออกมาทำราคาเหมาะสม ได้แก่

บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของ NAT ด้วยวิธี PER ได้รเหมะสมที่ 7.80-8.90 บาทต่อหุ้น อิง PER ปี 67 ที่ 15-17 เท่า เชื่อว่าหลังจากเพิ่มทุน IPO บริษัทจะมีโอกาสรับงานที่มีมูลค่าได้เพิ่มมากขึ้นทั้งในรูปแบบของงานวางระบบติดตั้ง Software, Data center และงานติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น อุปกรณ์ Cybersecurity, Server

พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 66-68 โตเฉี่ย CAGR ที่ 28% เพิ่มขึ้นจาก 101 ล้านบาทในปี 65 เป็น 212 ล้านบาทในปี 68 จากแบ็กล็อกที่มีมูลค่า 551 ล้านบาท และโอกาสในการประมูลงานที่จะเพิ่มขึ้นในปี 67 ที่จะมาช่วยการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญสอดคล้องกับการประมาณการ

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า NAT จะมีกำไรปี 66 – 67 ที่โตได้เฉลี่ย 38% จากรายได้ที่สูงขึ้น ตามโครงการรับเหมาวางระบบ ICT ที่คาดจะได้รับมากขึ้น พร้อมประเมินราคาเป้าหมายสำหรับปี 67 ของ NAT ไว้ที่ 7 บาท (อิง PER ที่ 12 เท่า) ขณะที่บริษัทคู่แข่งอย่าง GABLE และ ITNS ที่มีค่า PER ปี 67 ที่ราว 9 – 10 เท่า และมีคาดการณ์กำไรปี 67 โต 20% – 21% ซึ่งต่ำกว่า NAT ที่คาดการณ์ว่าจะมีกำไรปี 67 โต 57%

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินมูลค่าพื้นฐานของ NAT ปี 67 ที่ 7.10 บาท /หุ้น ด้วยวิธี PE 13.5 เท่า คำนวณจาก Gordon Growth Model (L-T ROE 20.7%, Cost of Equity 13.5%) สูงกว่า PE 3 ปี เฉลี่ยที่ 10 เท่า ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจใกล้คียงกัน (AIT, ICN, TKC)

สำหรับความน่าสนใจของบริษัท ได้แก่ 1) มีจุดเด่นให้บริการวางระบบเครือข่าย โครงสร้างพื้นฐานและโซลูชั่นเกี่ยวกับ ICT 2) เป็นพันธมิตรระดับ Titanium Partner กับ Dell Technologies และให้บริการโซลูชั่นด้วยผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักของตลาด และ 3) มีสภาพคล่องสูง วงจรเงินสดเป็นลบ

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินมูลค่าเหมาะสมของ NAT โดยอิง PE Multiplier ที่ 15 เท่า เท่ากับค่าเฉลี่ย PE ปี 67 ของบริษัทในต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน และหากเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนในไทยที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน มีค่าเฉลี่ยของ PE ในช่วงปี 59-65 ที่ระดับ 13.9-14.1 เท่า บนประมาณการ EPS ของ NAT ที่ 0.58 บาทต่อหุ้นในปี 67 จึงคำนวณได้มูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานที่ 8.70 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลประกอบการของ NAT ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 63-65 ) เติบโตเป็นลำดับตามการขยายธุรกิจและฐานลูกค้า โดยรายได้เพิ่มเฉลี่ย 49.4% CAGR กำไรสุทธิโตเฉลี่ย 33.1% สำหรับกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 66-68) ประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 34.1% CAGR จากการเพิ่มขึ้นของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นตาม Product mix และการมีลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้นภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และเม็ดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน IPO ทำให้ฐานทุนมีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective P/E Ratio โดยใช้ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดเอ็มเอไอ อาทิ AIT, MFEC, GABLE, TKC, ICN และ ITNS ได้ค่าเฉลี่ยที่ 14.8 เท่า และคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 67 ที่ 0.55 บาทต่อหุ้น ได้รเหมะสมปี 67 ที่ 8.14 บ

พร้อมกันนี้ คาดรายได้และกำไรปี 66 เติบโต 36% จากปีก่อน และเติบโต 21% จากปีก่อน สู่ 1,485 ล้านบาท และ 122 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากภาครัฐและเอกชนมีการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขณะที่คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวลงจากปี 65 ที่ 15.8% เหลือ 14.7% ในปี 66 เนื่องจากรับรู้งานบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งงานบริการมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่ารายได้จากการขาย อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้และกำไรปี 67 จะกลับมาเติบโต 44%จากปีก่อน และ 48% จากปีก่อน ตามลำดับสู่ 2,138 ล้านบาท และ 180 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจาก 1) หน่วยงานภาครัฐเตรียมระบบรองกับการทางานออนไลน์เพิ่มขึ้นหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 2) บริษัทเอกชนหันมาลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มขึ้นเพื่อการทำงานอย่างยืดหยุ่นหลังการแพร่ระบาด COVID-19

Back to top button