“ภูมิธรรม” หารือทูตอินเดีย เห็นพ้องมุ่งแก้ปัญหาการค้า เล็งขยายเส้นทางการบิน

“ภูมิธรรม” เผยผลหารือทูตอินเดีย เห็นพ้องร่วมกันมุ่งแก้ปัญหาการค้า ชี้ขอเร่งรัดออกใบอนุญาตนำเข้ายางล้อ-โทรทัศน์สี พร้อมเจรจาต่อยอด FTA หนุนการค้า-การลงทุน


วันที่ 1 ก.พ. 67  นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนได้หารือกับนายนาเกช ซิงค์ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาการค้า โดยไทยได้ขอให้อินเดียเร่งรัดออกใบอนุญาตนำเข้ายางล้อ และโทรทัศน์สี ใบรับรองมาตรฐานสินค้าเครื่องปรับอากาศ , เม็ดพลาสติก , ไม้พาทิเคิลบอร์ด , ไม้เอ็มดีเอฟ และเส้นใยเรยอน รวมทั้งหาแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านอวกาศ และการขยายเส้นทางการบินระหว่างไทยกับอินเดีย เพื่อรองรับการเดินทางของนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนนักลงทุนอินเดียเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยา , รถยนต์ไฟฟ้า  และอวกาศ

นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองฝ่าย ยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นต่อการผลักดันการเจรจา ยกระดับความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-อินเดีย ให้มีผลสำเร็จโดยเร็ว และการเจรจาต่อยอดความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-อินเดีย เพื่อจะใช้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าและการลงทุน ให้ขยายตัวตามศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยและอินเดีย ทั้งนี้ อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และมีการขยายตัวของ GDP เฉลี่ย 7-8%

“ทูตอินเดียได้เชิญผมเดินทางเยือนอินเดีย เพื่อพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอุตสาหกรรมอินเดีย และภาคเอกชนรายใหญ่ของอินเดีย เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน สอดรับกับนโยบายรัฐบาลไทยที่จะยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ กับอินเดีย” นายภูมิธรรม กล่าว

ทั้งนี้ ปี 2566 การค้าระหว่างไทยและอินเดีย มีมูลค่า 16,044.89 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอินเดีย มูลค่า 10,118.01 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจากอินเดีย มูลค่า 5,926.88 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เม็ดพลาสติก ,เคมีภัณฑ์ , ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ , อัญมณีและเครื่องประดับ , และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอย , อัญมณี , เงินแท่งและทองคำ , เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ , เคมีภัณฑ์ , พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และสินแร่โลหะอื่นๆ รวมทั้งเศษโลหะและผลิตภัณฑ์.

X
Back to top button