เปิดโผ 13 หุ้น ราคาพุ่งเกิน 20% เดือนมกราคม

เปิดโผ 13 หุ้น “ราคาพุ่งแรง” เกิน 20% เดือนมกราคม เอาชนะตลาดหุ้นอย่างแข็งแกร่ง รับข่าวบวกเฉพาะทางกับเก็งสัญญาตามเทคนิค


เดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดหุ้นไทย (SET Index) แกว่งตัวไซต์เวย์ดาวน์เป็นลัก พร้อมวอลุ่มการซื้อขายเบาบางเฉลี่ยต่อวันมูลค่าอยู่ที่ 45,310.61 ล้านบาท

ส่วนความเคลื่อนไหวของ SET Index พบว่า ณ สิ้นปี 66 ปิดวันที่ 28 ธ.ค. 66 อยู่ที่ 1,415.85 จุด หลังจากนั้นราคาหุ้นอ่อนตัวลงเรื่อยๆ จนมาปิดวันที่ 31 ม.ค. 67 อยู่ที่ 1,364.52 ล้านบาท ลงไป 51.33 จุด หรือลบไป 3.63% โดยหลักเกิดจากแรงเทขายทำกำไรจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 30,874.11 ล้านบาท รวมถึงนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,457.69 ล้านบาท สาเหตุหลักเงินไหลออกส่วนหนึ่งจากบอนด์ยีลด์สหรัฐยังอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกันยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน และนักลงทุนรองบการเงินงบปี 66 ของ “บจ.” ที่จะทยอยประกาศออกมา

ดังนั้นในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาจะเห็นแรงเทขายหุ้นออกมาทุกกลุ่มทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กตามลำดับ แต่จะมีการเข้าเก็งกำไรเป็นรายตัวไป ส่งผลให้มีหุ้นตัวที่นักลงทุนไม่คุ้นเคยปรับตัวขึ้นมาแบบไรเหตุผล ขณะที่บางบริษัทฯขึ้นมาจากข่าว จนสามารถชนะดัชนีตลาดหุ้นไทยพุ่งเกิน 20% ได้แก่ JKN, GREEN, SRICHA, KWI, WIN, BEAUTY, VPO, PRIME, CSS, CCET, PAF, WIIK และ GIFT

สำหรับ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN โดย ณ วันที่ 28 ธ.ค. 66 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 0.50 บาท ขณะที่วันที่ 31 ม.ค. 67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 1.07 บาท บวกไป 0.57 บาท หรือขึ้นไป 114% ช่วงดังกล่าวรับปัจจัยบวกระยะสั้นเท่านั้น จากข่าวปิดดีลเฉือนขายหุ้น 50% “มิสยูนิเวิร์ส” ให้นายราอูล โรชา คานตู เศรษฐีละตินร่วมทุน กวาดเงินสดกว่า 581 ล้านบาท แก้วิกฤติสภาพคล่องจนล่าสุดราคาหุ้นกลับมาสู่ปกติ

บริษัท กรีน รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ GREEN โดย ณ วันที่ 28 ธ.ค. 66 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 0.70 บาท ขณะที่วันที่ 31 ม.ค. 67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 1.21 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 72.86% ส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเกิดจากการเข้ามาเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิค

บริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SRICHA โดย ณ วันที่ 28 ธ.ค. 66 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 5.20 บาท ขณะที่วันที่ 31 ม.ค. 67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 7.65 บาท บวกไป 2.45 บาท หรือขึ้นไป 47.12% ส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเกิดจากการเข้ามาเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิค

นอกจากนี้ยังมีบริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน)  หรือ BEAUTY โดย ณ วันที่ 28 ธ.ค. 66 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 0.46บาท ขณะที่วันที่ 31 ม.ค. 67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 0.63 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 36.96% ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเข้ามาเก็งกำไรในประเด็นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการฟรีวีซ่าไทย-จีน

บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME โดย ณ วันที่ 28 ธ.ค. 66 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 0.61 บาท ขณะที่วันที่ 31 ม.ค. 67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 0.81 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 32.79% ช่วงระยะเวลาดังกล่าวเกิดการเข้ามาเก็งกำไรจากประเด็นข่าวที่บริษัทย่อยอย่าง บริษัท พีอาร์ปากพนัง1 จำกัด และบริษัท พีอาร์หัวไทร จำกัด  ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นระยะเวลา 25 ปีเพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) โดยมีปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 15.70 เมกะวัตต์ กำหนดผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (SCOD) ในปี 2573

บริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT โดย ณ วันที่ 28 ธ.ค. 66 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 2.92 บาท ขณะที่วันที่ 31 ม.ค. 67 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 3.52 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 20.55% นักลงทุนเชื่อมั่นว่าปี 67 จะเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ GIFT ในหลายมิติ ทั้งในแง่การเติบโตของรายได้อย่างก้าวกระโดด และในมิติการขยาย Ecosystem เพื่อเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งบริษัทฯ มีทิศทางที่ชัดเจนที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์และเป็นธุรกิจแห่งอนาคต จึงเชื่อมั่นว่ารายได้รวมปีนี้จะสูงถึง 2,700 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามจากตัวอย่างขึ้นที่ปรับตัวขึ้นชนะดัชนีช่วงเดือนมกราคมนั้นส่วนใหญ่ราคาหุ้นไม่มีเหตุผลเพียงเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคเท่านั้นหากคิดจะไล่ราคาตามอาจผิดหวัง ส่วนหุ้นที่มีปัจจัยบวก หาจังหวะดีๆ เพื่อเป็นโอกาส!?

Back to top button