โบรกชู MINT ท็อปพิก! เป้า 40 บาท กำไรปี 67-68 โต 10%

MINT ท็อปพิก! โบรกมองกำไรปกติปี 67 โต 9% มาที่ 7,774 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 12% แตะระดับ 8,737 ล้านบาท ในปี 68 คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ KCS ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หลักทรัพย์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 40 บาท โดยผู้บริหารตั้งเป้าหมายการเติบโตช่วงปี 67-69 จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 8-10% และมีกำไรเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 15-20%

อีกทั้งยังมองว่าในปี 69 จะขยายโรงแรมแตะ 780 แห่ง จากปัจจุบันมีโรงแรม 532 แห่ง และร้านอาหารจะเพิ่มมาเป็น 3,700 สาขา จากปัจจุบัน 2,645 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขยายแบบ asset light (ลดการถือครองสินทรัพย์) และการร่วมทุน

นอกจากนี้ ผู้บริหารคาดการณ์รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดในโรงแรม (RevPAR) ในปี 67 เติบโต 15-20% (ฝ่ายวิจัยคาดการณ์เติบโต 6%) ซึ่งมีแรงสนับสนุนหลักจากการปรับ ADR โดยในระยะสั้นช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 67 ยังโดดเด่นและเหนือความคาดหมายของบริษัท ขณะที่ยอดการจอง (Pre-bookings) ในไทยโต 40% และในยุโรปโต 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ในระยะกลางได้งาน UEFA Euro ที่เยอรมัน และงาน Olympics ที่ฝรังเศสหนุนเพิ่มเติม

พร้อมกันนี้ บริษัทยังเน้นการรีแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงแรมในยุโรปให้มีสัดส่วนที่สูงขึ้น, เพิ่ม ADR, และมีโอกาสขายต่อเนื่อง (cross-selling) ในอนาคต โดยปี 66 มีการรีแบรนด์ไปแล้ว 19 โรงแรม และมีแผนทำต่ออีก 30 โรงแรมในปี 67-68

ด้านต้นทุนค่าไฟปี 67 มีการทำป้องกันความเสี่ยง (hedge) แล้ว 80-90% และราคาต่ำกว่าปี 66

รวมถึงการตั้งเป้าหมายลดหนี้ปี 67 อีกราว 1 หมื่นล้านบาท และทำให้ Net IBD/E ที่ 1 เท่า ในปี 66 เป็น 0.8 เท่าในปี 67 ผ่านกระแสเงินสดของบริษัท (CFO) ที่ปกติตกปีละ 3.5-4 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คงเป้าหมาย CAPEX (การลงทุนไปกับสินทรัพย์ถาวรของบริษัท) ปี 67-68 ที่ราว 0.8-1.3 หมื่นล้านบาท เทียบกับ 1.4 หมื่นล้านบาท ในปี 66 โดยเน้นลงทุนการกับรีแบรนด์ และขยายโรงแรมในรูปแบบรับจ้างบริหาร (light asset) เป็นหลัก

ดังนั้น จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 40 บาท และคงเลือก MINT เป็นหนึ่งในท็อปพิก มองกำไรปกติปี 67-68 ที่ 7,774 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน และ 8,737 ล้านบาท โต 12% จากปีก่อน เบื้องต้นมีโอกาสอัพไซด์ 5-10% จากแผนลดหนี้ของบริษัท, ต้นทุนค่าไฟที่ลดลง, และดีมานด์การท่องเที่ยวในไทย/ยุโรปที่ยังแข็งแกร่ง

Back to top button