“ชัชชาติ” ประกาศ “WFH” หลังฝุ่น PM2.5 พุ่งสีแดง 15-16 ก.พ.นี้

“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” สั่งหน่วยงานในสังกัด และขอความร่วมมือรัฐ-เอกชน ปฏิบัติงานที่บ้าน (WFH) ช่วงวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ พลังพบค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งระดับสีแดง และมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศให้หน่วยงานในสังกัด กทม.ปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home: WFH ช่วงวันที่ 15-16 ก.พ. 67 หลังหลายพื้นที่มีปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในระดับสีแดง ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันที่ 14-17 ก.พ. 67 พร้อมขอความร่วมมือภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวน 151 แห่งร่วมมาตรการ WFH ด้วย

สำหรับโรงเรียนในสังกัด กทม.ยังไม่ได้มีคำสั่งเนื่องจากเป็นพื้นที่ Safe Zone ที่ทำห้องเรียนปลอดฝุ่นให้กับนักเรียนแล้ว และมีการแจกหน้ากากอนามัย โดยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม เช่น งดกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ก็ให้ขึ้นอยู่ดุลยพินิจของผู้บริหารในพื้นที่

โดยศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กทม.รายงานค่า PM2.5 ในพื้นที่ กทม.มีค่ามากกว่า 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) อยู่ในระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ 20 เขต คือ คลองสามวา ทวีวัฒนา ธนบุรี บางกอกน้อย บางเขน บางบอน บางพลัด บึงกุ่ม ประเวศ ลาดกระบัง หนองแขม หนองจอก  คันนายาว ตลิ่งชัน บางนา ปทุมวัน ป้อมปราบศัตรูพ่าย มีนบุรี ยานนาวา หลักสี่ และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมมีการแจ้งเตือนใน LINE ALERT

ทั้งนี้ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัด กทม.ออกหนังสือสั่งการถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวด และดำเนินมาตรการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ กทม.ดังนี้

  1. เข้มงวดตรวจวัดตรวจจับรถยนต์ควันดำทุกประเภทร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  2. ประสานสถานีตำรวจท้องที่อำนวยการจราจรและกวดขันห้ามจอดรถในถนนสายหลักสายรองตลอดเวลา
  3. ขอความร่วมมือทำงานหรือปฏิบัติงานในที่พัก (Work From Home) ใช้รถเท่าที่จำเป็น ไม่ขับ…ช่วยดับเครื่อง
  4. ประชาสัมพันธ์ประชาชนให้บำรุงรักษาเครื่องยนต์และลดใช้รถยนต์ส่วนตัว
  5. ควบคุมสถานประกอบกิจการไม่ให้ปล่อยมลพิษอากาศเกินค่ามาตรฐาน
  6. ขอความร่วมมือทำ Big Cleaning สถานที่ก่อสร้างและแพลนท์ปูน รวมถึงงดกิจกรรมเกิดฝุ่นจากการก่อสร้างทุกประเภท
  7. เข้มงวดตรวจตราควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะหรือการเผาในที่โล่ง
  8. เพิ่มความถี่ในการล้างและดูดฝุ่นถนน ฉีดล้างต้นไม้ ใบไม้ และทำความสะอาดป้ายรถเมล์
  9. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้พร้อมแนะนำวิธีป้องกันสุขภาพอนามัยจากฝุ่นละออง PM2.5 ให้กับประชาชน และแจ้งเตือนผ่านช่องทางแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ AIRBKK พร้อมรับแจ้งเบาะแสแหล่งกำเนิดมลพิษทางแอปพลิเคชัน Traffy Fondue
  10. ออกหน่วยบริการสาธารณสุขและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ คลินิกมลพิษทางอากาศดูแลสุขภาพประชาชน
  11. ดำเนินการตามมาตรการลดฝุ่นละออง PM2.5 ในโรงเรียนอย่างเคร่งครัด และลดผลกระทบต่อสุขภาพนักเรียน

นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์สถานการณ์ค่า PM2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ว่ามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 ก.พ. ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าระหว่างวันที่ 14-15 ก.พ.การระบายอากาศในพื้นที่กทม.และปริมณฑลค่อนข้างอ่อน ประกอบกับอากาศใกล้พื้นผิวมีลักษณะปิด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทิศทางลมระหว่างวันที่ 14-15 ก.พ. เป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออก ซึ่ง กทม.อยู่ท้ายลม อีกทั้งระหว่างวันที่ 10-13 ก.พ.มีจุดเผาจำนวนมากทั้งบริเวณภาคกลางและอีสาน (3,241 จุด) และกัมพูชา (14,939 จุด)

Back to top button