MCA ท็อปฟอร์มปี 66 โกยรายได้ 471 ล้าน ดันกำไรโต 52% เคาะปันผล 0.045 บาท

MCA ท็อปฟอร์มปี 66 โกยรายได้ 471 ล้าน ดันกำไรโต 52% แตะ 25 ล้านบาท เคาะปันผล 0.045 บาท XD 2 พ.ค.นี้ ด้าน CEO “ภักดี เหล่างาม” เดินหน้าตอกย้ำสู่การเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ครบวงจร วางเป้ารายได้ปี 67 โต 30% 


นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทมาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA ผู้นำด้านการให้บริการด้านแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดแบบ One-stop Service Marketing Solution เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2566 มีการเติบโตอย่างโดดเด่นเป็นประวัติการณ์ โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 471.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.42% เนื่องจากมีจำนวนลูกค้าที่ให้บริการเพิ่มขึ้นรวม 149 บริษัท 181 แบรนด์ เพิ่มขึ้นถึง 50 บริษัท 58 แบรนด์ ซึ่งเป็นลูกค้าเดิมที่ทำงานต่อเนื่อง 72% และมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 52% โดยพอร์ตลูกค้าที่เข้าใช้บริการสูงสุดจะเป็นบริษัทในกลุ่มสินค้าอุปโภค และบริษัทในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ต้องการกระตุ้นยอดขายผ่านกิจกรรมการตลาดผ่านการให้บริการ 5 ประเภทอย่างต่อเนื่อง

โดยบริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล รายได้ 164.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.87% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยมีลูกค้าที่ให้บริการ 92 บริษัท 104 แบรนด์ เพิ่มขึ้น 45 บริษัท 47 แบรนด์ ทั้งนี้มาจากบริการด้าน Booth & Roadshow ซึ่งเป็นรายได้หลักมีรายได้ 60.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น24.76% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) รายได้จากบริการด้าน Outsourcing Coordinate ที่ 54.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น119.74% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) รายได้จากบริการด้าน Digital 3.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.37% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และรายได้จาก Even 46.09 ล้านบาท ลดลง 10% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) เนื่องจากความต้องการของตลาดที่มุ่งเน้นกระตุ้นตลาดผ่านกิจกรรมด้านการขายที่มากขึ้น

ส่วนบริการบรรจุและจัดส่งสินค้ารายได้ 17.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.33% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยมีลูกค้าที่ให้บริการ 15 บริษัท 24 แบรนด์ สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งในเรื่องของการบรรจุหีบห่อ, จัดส่งสินค้า, การ set up รวมถึงการรื้อถอนโครงสร้าง และการแท็กสินค้าผ่านระบบ Application

ขณะที่บริการพนักงานแนะนำสินค้ารายได้ 120.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.92% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยบริษัทมีลูกค้า ที่ให้บริการ 55 บริษัท 71 แบรนด์ ซึ่งเป็นลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 69.77% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) มาจากรายได้จากบริการพนักงานแนะนำสินค้ามาจากบริการด้านแคมเปญ PG & BA มีรายได้ 95.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.06% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และบริษัทเริ่มหันมาให้บริการด้าน Outsourcing PG,BA เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีรายได้ 24.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97.68% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)

ส่วนบริการจัดเรียงสินค้ารายได้ 154.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น17.55% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยมีลูกค้าที่ให้บริการ 43 บริษัท 44 แบรนด์ ลูกค้าเพิ่มขึ้น 14 บริษัท 15 แบรนด์ โดยรายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายช่องทางธุรกิจ Merchandiser CVS (Share Service) ในกลุ่มร้านสะดวกซื้อ (Convenience store) โดยเริ่มดำเนินงาน มี.ค.2566 รายได้ 13.43 ล้านบาท เพื่อให้ครอบคลุมทุกช่องทางบริการทำให้บริการ ในรูปแบบ Share Service มีความต้องการเพิ่มขึ้น บริการด้าน Merchandiser (Share Service) ให้บริการในห้างสรรพสินค้า (Modern Trade) ร้านค้าส่ง, ร้านค้าปลีก (General Trade/Traditional Trade) มีรายได้ 53.77 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 145.54% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)

ขณะที่ผู้จัดจำหน่ายสินค้ารายได้ 14.28 ล้านบาท โดยเป็นธุรกิจบริการใหม่ในการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าซึ่งเริ่มดำเนินงานเดือนก.ค.2566 และบริษัทมีลูกค้าที่ให้บริการแล้ว 4 บริษัท 14 แบรนด์ผ่านช่องทางร้านค้าส่ง, ร้านค้าปลีก (General Trade/Traditional Trade) ครอบคลุมทั่วประเทศ

ทั้งนี้จากการเติบโตของรายได้ที่สร้างสถิติสูงสุดดังกล่าวสะท้อนถึงกำไรสุทธิในปี 2566 แตะระดับ 25.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.15% (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นการบริหารจัดการบริหารต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนกำไรสุทธิในปี 2566 เท่ากับ 5.44

ขณะที่สินทรัพย์หมุนเวียน ณ 31 ธันวาคม 2566 อยู่ที่ 282.07 ล้านบาท หนี้สินหมุนเวียน 54.71 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 5.15 เท่า เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 1.97 เท่า เนื่องจากบริษัทฯมีกระแสเงินสดเพิ่มมากขึ้น 138.71 ล้านบาท และมีลูกหนี้การค้าเพิ่ม 51.71 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผลงวดปี 2566 (ม.ค.-ธ.ค.) ในอัตราหุ้นละ 0.045 บาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เพื่อดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2567

อย่างไรก็ตามในปี 2567 ทาง MCA ยังตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ครบวงจร (One-stop Service Marketing Solution) อย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้เพิ่มขึ้น 30% จากการขับเคลื่อนการให้บริการทั้ง 5 ประเภท

โดยบริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตกลุ่มบริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัลเพิ่มขึ้น 20.83% จากการรักษาฐานกลุ่มลูกค้าเดิมและเพิ่มลูกค้าใหม่ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มให้บริการบรรจุและจัดส่งสินค้า คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 40%

ส่วนกลุ่มบริการพนักงานแนะนำสินค้าตั้งเป้ารายได้การเติบโตเพิ่มขึ้น 17.91%,กลุ่มบริการจัดเรียงสินค้าตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น 42.33% จากการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางการตลาดให้สามารถรองรับการให้บริการและบริหารจัดการงานที่ต้องใช้คนหรือพนักงานจำนวนมากได้เพิ่มขึ้นโดยในไตรมาส 4/2566 ที่ผ่านมาบริษัทฯได้รับงานด้านการบริหารจัดการพนักงานมากกว่า 300 คน และได้ทำสัญญาต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 เรียบร้อยแล้ว

และกลุ่มการจัดจำหน่ายสินค้าบริษัทฯตั้งรายได้การเติบโตเพิ่มขึ้น 247.18% จากเป้าหมายการเพิ่มกลุ่มลูกค้ารวมถึงเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายให้กับห้างสรรพสินค้า (Modern Trade) และร้านสะดวกซื้อ (Convenience store) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในกลุ่มเจ้าของสินค้าที่มองหาผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญในการขายและการตลาด สามารถช่วยให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ และมียอดขายที่เติบโตมากยิ่งขึ้น 

Back to top button