PRTR ส่งซิก Q1 โตดี ลุยเพิ่มพนักงานใหม่-รับเศรษฐกิจฟื้น โบรกเคาะเป้า 6.60 บาท

PRTR ส่งซิกไตรมาส 1/67 สดใส รับเศรษฐกิจฟื้นหนุนตลาดจ้างงาน ดันรายได้ปี 67 เติบโต 10-15% ฟากโบรกแนะนำ “ซื้อ” เคาะราคาเป้าหมาย 6.60 บาท คาดระยะยาวธุรกิจเติบโตแกร่ง


นางสาวริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดจ้างงานในประเทศไทยในสภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว โดย PRTR หนุนภาคธุรกิจด้วย (Total HR Solutions) ที่มีมาร์เก็ตแชร์เบอร์หนึ่งในธุรกิจ (Outsource) ที่ส่งสัญญาณแนวโน้มไตรมาส 1/67 มีการเติบโตดี รวมทั้งการจัดจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจธนาคารและ (consumer electronic) ซึ่งตั้งเป้าสิ้นปี 67 มีพนักงาน (Outsource) ในมือประมาณ 18,500 คน

ขณะที่ธุรกิจ (Recruitment) บริษัทโฟกัสเจาะกลุ่มลูกค้าธนาคารและการเงิน, กลุ่มธุรกิจค้าปลีก รวมถึงกลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค พร้อมทยอยได้ลูกค้าเข้ามาเพิ่มขึ้น และตั้งเป้าปี 67 จะสรรหาพนักงานได้ประมาณ 2,800 ตำแหน่ง ส่วนธุรกิจใหม่ที่เข้าไปลงทุนเริ่มเก็บเกี่ยวผลงานส่งผลให้ปี 67 PRTR พร้อมสร้างฐานกำไรเพิ่มขึ้น วางเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่า PRTR ปี 66 ผ่านพ้นไปแม้เศรษฐกิจไทยกดดัน แต่ยังคงสามารถทำกำไรบันทึกสถิติสูงสุดใหม่ได้ โดยประสิทธิภาพการทำกำไรดีสุดในรอบ 4 ปี ส่วนปี 67 ผลงานคาดกาณณ์กำไรดีดซื้อขายด้วย P/E24E เพียง 9.9 เท่า

ขณะที่ในปี 66 ธุรกิจ (Outsource) ได้ลูกค้าใหม่ เพิ่มขึ้น 12.8% เป็น 510 ราย แต่เศรษฐกิจไทยอ่อนแอเกิดการเลิกจ้างในกลุ่ม (e-commerce) ทำให้พนักงาน (Outsource) เพิ่ม 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 16,813 คน ต่ำกว่าเป้าบริษัท 3.9% ด้านธุรกิจใหม่ อาทิ อบรม, แพล็ตฟอร์มเงินเดือน และแพลตฟอร์มหางาน ที่เพิ่งทยอยเริ่มในช่วงไตรมาส 4/66 ยังคงมีผลขาดทุนรวมกัน 24 ล้านบาท (คิดเป็น 11.8% ของกำไรรวม) ทำให้กดดันกำไรในภาพรวมปี 66

อย่างไรก็ดี ประเด็นดีที่ซ่อนอยู่ คือ 1.หากถอดธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มออกไปจะพบว่าธุรกิจเดิม (Outsource, Recruitment) มีอัตรากำไรสุทธิ 3.6% สูงสุดในรอบ 4 ปีสะท้อนถึงประสิทธิภาพการทำกำไรที่ดีขึ้นจากการได้ (economies of scale) และการนำเงิน IPO ไปคืนหนี้ รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายได้ถึง 54.6% และ 2.ธุรกิจ (Recruitment) มีการเติบโต 2,438 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้น 49.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าประมาณการถึง 33.4%

นอกจากนี้ ด้านแนวโน้มปี 2567 ผู้บริหารมีการตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% หลังพบว่าตลาดจ้างงานเริ่มฟื้นตัวหลายอุตสาหกรรม ขณะที่คาดการณ์จะขาดทุนใน 3 ธุรกิจใหม่ลดลง 50% (เหลือประมาณ 10 ล้านบาท) โดยเฉพาะธุรกิจฝึกอบรมที่เริ่มเห็นการเติบโตเป็นไปในทิศททางที่ดี และตั้งเป้าหมายจะสามารถ break-even ได้ภายในปี 67 ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังเชื่อมั่นบริษัทในภาพระยะยาว โดยหากเศรษฐกิจไทยฟื้นได้ชัดจะเป็นตัวจุดให้หุ้นกลับมาเก็งกำไรได้แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6.60 บาท

Back to top button