CK ออกหุ้นกู้ 4 ชุด ชูดอกเบี้ยสูงสุด 4.10% เปิดจอง 25-29 เม.ย.นี้

CK ออกหุ้นกู้ 4 ชุด ชูผลตอบแทน 3.40–4.10% ต่อปี หลังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- “คงที่” พร้อมเสนอขาย 25-29 เม.ย.67 ผ่าน 2 แบงก์ BBL-KTB ทั้งสาขาและช่องทางออนไลน์


นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้างที่สามารถรับบริหารโครงการขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนทุกรูปแบบและมีความสามารถในการพัฒนา ลงทุน รวมทั้งบริหารโครงการสัมปทานระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศและภูมิภาคอย่างครบวงจรได้ประกาศความพร้อมในการเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 4 ชุด แก่ผู้ลงทุนทั่วไปผ่านสาขาและช่องทางออนไลน์ของ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ โดยผู้ลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้พร้อมกันในระหว่างวันที่ 25 – 29 เมษายน 2567 สำหรับหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด ประกอบด้วย

หุ้นกุ้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.61% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 3  อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.78% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี

โดยกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ซึ่งหุ้นกู้ชุดที่ 2-4 มีเงื่อนไขให้ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนก่อนครบกำหนดไถ่ถอนตามเงื่อนไขที่ระบุในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร

ขณะที่ หุ้นกู้ CK ที่เสนอขายในครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบันเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา พร้อมกับเชื่อว่าปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่ CK เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทยที่มีความสามารถในการรับงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และโครงการที่มีความซับซ้อน และมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่เกิดจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ รวมถึงโอกาสในการเติบโตจากมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ โดย ณ สิ้นปี 2566 บริษัทฯ มีปริมาณงานในมือที่รอรับรู้รายได้ มูลค่า 128,535 ล้านบาท

CK ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ใหญ่ที่สุดในหมวดธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้างที่สะท้อนถึงความมั่นคงของกิจการเท่านั้น แต่ CK ยังมีความสามารถในการด้านก่อสร้างและรับบริหารโครงการขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย นายณัฐวุฒิ กล่าว

อีกทั้ง ทำให้ CK มีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพไม่ใช่เฉพาะในประเทศแต่ยังรวมถึงการรับงานโครงการขนาดใหญ่ในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความไว้วางใจให้รับงานโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่องโดยเชื่อว่าจะช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนในการตัดสินใจจองซื้อหุ้นกู้ CK ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ปัจจุบัน CK ดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ 1.ธุรกิจการก่อสร้างทั้งระบบขนส่งมวลชน, ท่าอากาศยาน, ถนน, ทางด่วน, สะพาน, พลังงาน, ระบบน้ำและท่าเรือ และ 2.ธุรกิจการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภค ด้วยการเป็นผู้ลงทุนพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคด้านต่างๆ โดย CK ถือหุ้นใน บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ประกอบธุรกิจก่อสร้างและบริหารทางพิเศษ

รวมถึงบริหารจัดการโครงการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้าในสัดส่วน 35.18% ขณะที่ถือหุ้น บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ผู้ผลิตจำหน่ายน้ำประปาและบริหารจัดการน้ำเสียในสัดส่วน 19.40% และถือหุ้นใน บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ผู้ประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ในสัดส่วน 30.00% (ข้อมูลโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566)

อีกทั้งผลประกอบการของ CK มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,419 ล้านบาท ปี 2565 และมีรายได้รวม 19,660 ล้านบาท ส่วนปี 2566 มีรายได้รวมเติบโตขึ้นเป็น 37,956 ล้านบาท ทั้งนี้มีกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 906 ล้านบาท, ปี 2565 อยู่ที่ 1,105 ล้านบาท และสุดท้ายปี 2566 อยู่ที่ 1,501 ล้านบาท

นอกจากนี้ CK ยังได้รับคะแนนประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2566 ซึ่ง สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และได้รับการประเมิน ESG Rating ในระดับ A จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประจำปี 2566 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนภายใต้หลักธรรมาภิบาลอีกด้วย

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ CK สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยติดต่อผ่าน 2 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bualuang mBanking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา โทร. 0-2111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

Back to top button