“InnovestX” คัด 4 กองทุน ผลตอบแทนสูง รับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน

“InnovestX” คัด 4 กองทุน “SCBWORLD(A)-PRINCIPAL GFIXED-SCBGPROPA-SCBGOLDH” ผลตอบแทนสูง รับมือความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และภาวะสงคราม พร้อมชู 3 จุดเด่นรับเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนกว่า 9 เท่า


บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) เรือธงด้านการลงทุนภายใต้ กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) เดินหน้ายกระดับผลิตภัณฑ์และบริการด้านกองทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา สามารถสร้างความสนใจให้นักลงทุน ลงทุนในกองทุนและมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ากองทุนกว่า 9 เท่า (Inflow) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2566 ด้วย 3 จุดเด่น ได้แก่ 1.คัดกองทุนเด็ดแบบเป็นกลางจากทุก บลจ. กว่า 1,800 กองทุน

2.คัดคำแนะนำการลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม และเหมาะกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา และ 3.คัดของดี ราคาคุ้ม สิทธิพิเศษที่เหนือกว่า ล่าสุด แนะนำ 4 กองทุนแกร่ง ได้แก่ 1.กองทุนหุ้นโลก SCBWORLD(A) 2.กองทุนตราสารหนี้โลก PRINCIPAL GFIXED 3.กองทุนอสังหาริมทรัพย์โลก SCBGPROPA และ 4.กองทุนทองคำ SCBGOLDH สำหรับสร้าง Core Portfolio พอร์ตหลักที่นักลงทุนต้องมี เพื่อสร้างความมั่นคง

อีกทั้งยังสร้างโอกาสเติบโตระยะยาว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจโลก ความหวังในการลดดอกเบี้ยน้อยลง ผนวกกับความกังวลด้านความขัดแย้งในตะวันออกกลาง พร้อมดีลพิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อกองทุน (Front-end Fee) ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567-28 มิถุนายน 2567

นายพยนต์ พงศาวรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานฝ่าย Wealth Products and Strategy บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในช่วงเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกยังอยู่ในภาวะปรับฐานและปรับความคาดหวัง ด้านดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมยังคงอยู่ในภาวะปรับฐาน ขณะที่ความคาดหวังด้านการลดดอกเบี้ยของนักลงทุนนั้นเริ่มลดลง หลังจากประธาน Fed และสมาชิกธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่วนมาก เริ่มถอยกับแนวทางการลดดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากที่เกิดความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง จนกดดันราคาน้ำมันอีกครั้ง

โดยในเดือนพฤษภาคม InnovestX มองว่า มี 4 ประเด็นที่ต้องจับตา ได้แก่ 1.ความกลัวในเรื่อง “Sell in May” ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดของผู้จัดการกองทุนต่างชาติ ทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางกว่าปกติ 2.ความกังวลด้านการกลับมาของเงินเฟ้อ หลังเงินเฟ้อ (Core PCE YoY) ของสหรัฐฯ เริ่มทรงตัว 3.การประชุม FED เดือน พ.ค. เป็นการส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาดการณ์ จากเดิมที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง สู่ระดับ 1-2 ครั้ง

อย่างไรก็ตามการส่งสัญญาณชะลอการลดขนาดงบดุล ช่วยลดแรงกดดันด้านสภาพคล่อง และ 4.ความกังวลด้านทิศทางการดำเนินงานที่ชะลอตัวลง ด้วยเหตุผลข้างต้นประกอบกับการปรับตัวบวกของหุ้นในหลายๆ ตลาด นับตั้งแต่ต้นปี มีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นจะอยู่ในภาวะที่ชะลอตัว

ดังนั้น ด้วยเหตุนี้ InnovestX ประเมินว่ากลยุทธ์การลงทุนในเดือนพฤษภาคม เป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องคัดแยกตลาดที่แข็งแกร่งออกจากตลาดที่อ่อนแอด้านปัจจัยพื้นฐาน โดยภาพรวมการที่ตลาดหุ้นมีโอกาสพักฐาน เป็นโอกาสในการสะสมพอร์ตการลงทุนระยะกลาง-ยาว (3-6 เดือน และ 12 เดือนขึ้นไป) โดยตลาดหุ้นที่น่าสนใจในการทยอยสะสมคือ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และจีน ทั้งนี้ 4 กองทุน ที่ InnovestX แนะนำลงทุน ได้แก่

1.กองทุนหุ้นโลก SCBWORLD(A) โดยการลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจของบริษัทมหาชนทั่วโลก ที่คาดหวังการเติบโตของมูลค่ากิจการในระยะยาว ซึ่งกองทุน SCBWORLD(A) เน้นลงทุนหุ้นเด่นทั่วโลก ตามดัชนี MSCI World สินทรัพย์ที่ลงทุน 5 อันดับแรกของกองทุน ลงทุนในหุ้น 7 Magnificent อาทิ  Microsoft หนึ่งในผู้นำด้าน AI ระดับโลก และเป็นบริษัทที่มีมูลค่า อันดับ 1 ของโลก เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการเทคโนโลยีต่างๆ, Apple ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นหุ้นที่ Warren Buffett ถือครองมากที่สุดในพอร์ต

Nvidia ผู้เล่นสำคัญในตลาดชิป AI ที่มีการเติบโตกว่า 2000% ใน 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทที่พัฒนาและผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิกและระบบประมวลผลเสมือนจริง ส่งออกให้ธุรกิจเทคโนโลยีทั่วโลก, Amazon.com บริษัทอีคอมเมิร์ซและบริการออนไลน์ รวมถึง Cloud Computing ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ Meta Platforms บริษัทด้านเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียชื่อดังระดับโลก เช่น Facebook, Instagram, WhatsApp และยังทำธุรกิจที่เกี่ยวกับความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality)

2.กองทุนตราสารหนี้โลก PRINCIPAL GFIXED ในสภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ตราสารหนี้จะช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ต เน้นลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) ซึ่งเป็นตลาดที่มีประสิทธิภาพ และมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง อีกทั้งนักลงทุนยังได้ประโยชน์จากผลตอบแทน ในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง โดยลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income หนึ่งในกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงทั่วโลก

โดยกองทุนจัดตั้งมาอย่างยาวนาน ผ่านทุกวัฏจักรเศรษฐกิจ บริหารโดยทีมประสบการณ์สูง เด่นด้านกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกแบบยืดหยุ่น เพื่อเฟ้นหาตราสารหนี้ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับพอร์ตการลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ และมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด

3.กองทุนอสังหาริมทรัพย์โลก SCBGPROPA การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์มีโอกาสสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนทั้งในด้านการเติบโตของราคา และการจ่ายเงินปันผล โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายได้ ซึ่งมีสภาพคล่องสูงกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง ทั้งนี้ SCBGPROPA ลงทุนในกองทุนหลัก BGF World Real Estate Securities Fund กระจายลงทุนในหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ราว 60-90 หลักทรัพย์ โดยทีมผู้จัดการกองทุนหลักจะทำการประเมินปัจจัยพื้นฐานเพื่อเฟ้นหาหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพสูง และมีมูลค่าเหมาะสมที่กระจายตัวอยู่ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก

4.กองทุนทองคำ SCBGOLDH สินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับในการสะสมความมั่งคั่ง โดยราคาของทองคำมักจะปรับตัวขึ้นสวนทางกับสินทรัพย์อื่นๆ ในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือวิกฤตด้านภูมิรัฐศาสตร์ SCBGOLDH ลงทุนในกองทุนหลัก SPDR Gold Shares ETF (GLD) มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องไปกับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยลงทุนในทองคำแท่งบริสุทธิ์ตั้งแต่ 99.5% ขึ้นไป และได้รับการจัดเก็บดูแลโดยสถาบันการเงินระดับสากล อาทิ JPMorgan SCBGOLDH มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศ

สำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถอ่านรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ www.innovestx.co.th/products/fund/ และสามารถติดตามบทวิเคราะห์ รวมถึงกลยุทธ์การลงทุนได้ที่  www.innovestx.co.th/research และ Facebook : InnovestX

Back to top button