CGSI วางเป้าขึ้น Top 5 โบรกชั้นนำในไทยปี 68 พร้อมส่วนแบ่งการตลาดเป็น 5%

CGSI วางแผนเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 5% หวังก้าวสู่ Top 5 โบรกเกอร์ชั้นนำในประเทศไทยปี 68 แย้มเตรียมปิดดีลโปรเจกต์ใหม่เร็วๆ นี้ พร้อมเป็นสะพานเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภูมิภาค


นายพัชระนนท์ ชีวเกรียงไกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI TH เปิดเผยว่า ภายหลัง China Galaxy Securities เข้าถือหุ้น 100% มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 67 ที่ผ่านมานั้นบริษัทฯพร้อมเดินหน้าเชิงรุกขยายธุรกิจในตลาดทุนไทยไปพร้อมกับผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง China Galaxy Securities ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนความแข็งแกร่ง CGSI ให้สามารถสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนมากขึ้น

โดย CGSI มีจุดแข็ง คือ Network จากปัจจัยการสนับสนุนของ China Galaxy Securities ที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียน และเป็นบริษัทในตลาดหุ้นจีนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์มากกว่า 2 ธนาคารใหญ่ในประเทศไทย พร้อมกับสาขา 500 แห่งทั่วประเทศจีน รวมไปถึงที่อื่นๆ ทั้ง ฮ่องกง, สิงค์โปร์, อินเดีย, เกาหลี, อังกฤษ  และสหรัฐฯ

“ทั้งนี้ ก้าวใหม่ของเราในตลาดทุนไทย นอกจากจะยังเน้นบริการธุรกิจหลักทรัพย์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว ภายใต้ความแข็งแกร่งทางธุรกิจที่สืบสานมานานถึง 45 ปี และด้วยศักยภาพของผู้ถือหุ้นใหญ่จากจีน เราจะเน้นเพิ่มโอกาสการลงทุนให้ลูกค้าไปสู่ตลาดที่น่าสนใจ อย่างอาเซียนด้วย” นายพัชระนนท์ กล่าว

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 67 บริษัทมุ่งเน้นการให้บริการด้านในหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) , ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund), หุ้นกู้อนุพันธ์ (Structure note) และ บริการการซื้อขายหุ้นในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน CGSI มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 4.10% และวางแผนเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอีก 1% ภายในปี 68 พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีการลงทุนที่ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง โดยล่าสุดบริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมแผนเปิดโปรเจกต์รูปแบบ One Stop Service Provider ร่วมกับประเทศจีน ที่อาจเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทุนในประเทศไทย

อีกทั้ง มีแผนการดำเนินงานที่ต้องการเป็น 1 ใน 5 บริษัทซื้อขายหลักทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทยภายในปี 68 ปัจจุบัน CGSI อยู่อันดับ 8 จากปี 66 ที่อยู่อันดับ 9 ขณะที่มีลูกค้าอยู่ในระบบมากกว่า 1 แสนคน โดยแบ่งเป็นลูกค้ากลุ่มสถาบันอยู่ที่ 65% ลูกค้ารายย่อย 35%

ขณะที่ในปี 67 บริษัทตั้งเป้ามีดีลลูกค้าที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไป (IPO) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ไม่น้อยกว่า 10 บริษัท ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ในมือแล้ว 6 บริษัท อาทิ ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT และ บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SPREME เป็นต้น ( ข้อมูล ณ วันที่ 9 พ.ค. 67 ) ส่วนธุรกิจบริการซื้อขายหุ้นในต่างประเทศจากความพร้อมด้านเทคโนโลยีและนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญของกลุ่ม CGSI จะช่วยเพิ่มโอกาสและความสำเร็จให้ลูกค้าที่ใช้บริการซื้อขายหุ้นในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

ด้าน.ส.แครอล ฟง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม CGSI กล่าวว่า พร้อมที่จะดำเนินการตามวิสัยทัศน์เพื่อเป็น ศูนย์กลางการลงทุนระดับโลกของเอเชีย ซึ่งในปี 65 กลุ่ม CGSI ได้กำหนดแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์เพื่อนำกลุ่มบริษัทไปสู่ธุรกิจที่มีความหลากหลายและเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยในปีที่ผ่านมา CGSI บรรลุข้อตกลงสำหรับดีลวาณิชธนกิจมากกว่า 40 รายการในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นดีลของทีมงานประเทศไทยถึง 34 รายการ ขณะที่ความสำเร็จเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของความมุ่งมั่นที่กลุ่ม CGSI  มอบบริการที่มีคุณค่าให้กับลูกค้า และ CGSI ยังมีใบอนุญาตธุรกิจวาณิชธนกิจในมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และไทย รวมถึงมีใบอนุญาตการจัดการสินทรัพย์ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย

ทั้งนี้ กลุ่ม CGSI มีกลุ่ม China Galaxy Securities (CGS) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่โดย CGSI เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีมาตรฐานการให้บริการทางการเงินที่ความน่าเชื่อถือและเป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในเอเชียมากว่า 45 ปี  และ CGS TH ได้อยู่เคียงข้าง CGSI มาตลอดเส้นทางการลงทุนของลูกค้าเป็นเวลาเกือบ 25 ปี

นอกเหนือจากนี้ นายพัชระนนท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กลุ่ม CGSI มีทีมนักวิเคราะห์จำนวนมากและสร้างผลงานโดดเด่น ทำให้กลุ่ม CGSI กวาดรางวัลในปี 2566 กว่า 80 รางวัล ซึ่งในส่วนของ CGS TH นั้น ได้รับรางวัลจาก Asia Money นิตยสารด้านการเงินชั้นนำที่มี ผู้อ่านมากที่สุดในเอเชียถึง 14 รางวัล และเป็นรางวัลยอดเยี่ยมอันดับหนึ่ง ถึง 12 รางวัล และยังได้รับรางวัลจาก สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ประจำปี 66 จำนวน 7 รางวัล โดยเฉพาะรางวัลทีมวิเคราะห์การลงทุนยอดเยี่ยมนั้น ได้รับมาต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ล่าสุดยังได้รับรางวัล Best Broker จาก FinanceAsia Awards ปี 67

“รางวัลเหล่านี้ เป็นรางวัลที่ได้มาจากความไว้วางใจของลูกค้าสถาบันและลูกค้าบุคคล ซึ่งสะท้อนว่า CGS TH เป็นผู้นำในธุรกิจหลักทรัพย์ของไทย และเราจะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป” นายพัชระนนท์ กล่าว

Back to top button