“โกลเบล็ก” คัด 4 หุ้นเด่นเข้า MSCI Rebalance มีผล 31 พ.ค.นี้

“บล.โกลเบล็ก” ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคง Sideway ลุ้น Fed มีโอกาส 68%  ลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบการประชุม ก.ย.นี้  ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่หนุน จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,350-1,400 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นเข้าคำนวณ MSCI Rebalance มีผล 31 พ.ค.นี้ ได้แก่ BTS, JTS, LH, MTC


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ คาดว่ามีโอกาสแกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนมีมุมมองบวกว่าตลาดแรงงานที่มีเสถียรภาพของสหรัฐจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ FED มีโอกาส 68% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบการประชุมของเดือนกันยายนนี้ ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่หนุน จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,350-1,400 จุด

โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม อาทิ วันนี้ (21 พ.ค.67) สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO), สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นัดหารือข้อสรุปเกี่ยวกับรูปแบบกองทุน LTF ที่จะรื้อฟื้น สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ในส่วนปัจจัยต่างประเทศ อาทิ วันที่ 22 พ.ค. 67 สหรัฐ รานงานยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. สต็อกน้ำมันรายเดือน และการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เมื่อวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. (เช้าวันที่ 23 พ.ค.), วันที่ 23 พ.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนเม.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณดัชนี MSCI Rebalance มีผล 31 พ.ค. นี้ Global Standard หุ้นเข้าไม่มี หุ้นออก ได้แก่ BTS, LH และ MTC ส่วน Global Small Cap หุ้นเข้า ได้แก่ BTS, JTS, LH, MTC หุ้นออก (ที่ต้องระวังแรงขายปรับลดน้ำหนัก) ได้แก่ BLAND, DITTO, FORTH, KSL, MAJOR, PSL, RS, SGP, SPCG, WHAUP

สำหรับในส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS ประเมินว่า แนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้แนะนำติดตามยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐ ดัชนีภาคบริการสหรัฐ และรายงานการประชุม FED หากตัวเลขอยู่ในทิศทางปรับตัวลงจะเป็นบวกต่อราคาทองคำ

นอกจากนี้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิคที่สร้างฐานเหนือ 2,350 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ และมีจุดขายทำกำไรที่แนวต้าน 2,430 ดอลลาร์/ออนซ์

Back to top button