WTI ดิ่ง 3% หลังซาอุฯ ส่งสัญญาณเพิ่มผลิตน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดร่วง 3% ลดลง 2.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.21 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณเพิ่มการผลิตน้ำมัน


ผู้สื่อข่าวรายงาน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันพุธ (30 เม.ย.68) หลังจากซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณเพิ่มการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ และผลกระทบของสงครามการค้าทั่วโลกที่อาจทำให้อุปสงค์น้ำมันชะลอตัวลง

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.21 ดอลลาร์ หรือ 3.66% ปิดที่ 58.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.76% ปิดที่ 63.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลอดเดือนเม.ย. ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงทั้งสิ้น 18% และราคาน้ำมันเบรนท์ลดลงทั้งสิ้น 15% ซึ่งต่างก็เป็นการปรับตัวลงรายเดือนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่งหรือนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564

ราคาน้ำมันร่วงลงหลังจากเจ้าหน้าที่ของซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียไม่เต็มใจที่จะพยุงตลาดน้ำมันด้วยการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม และยืนยันว่าซาอุดีอาระเบียสามารถรับมือกับภาวะราคาน้ำมันต่ำเป็นเวลานานได้ นับเป็นการส่งสัญญาณว่าซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกอาจจะเปลี่ยนจุดยืนไปเป็นการผลิตน้ำมันเพิ่ม เพื่อที่จะชิงส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมา

นักลงทุนยังวิตกกังวลว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนมิ.ย. ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่า สมาชิกหลายประเทศของโอเปกพลัสต้องการให้เพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะเป็นการเพิ่มการผลิตเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมของสมาชิก 8 ประเทศของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 5 พ.ค. โดยที่ประชุมจะตัดสินใจเกี่ยวกับการกำหนดกำลังการผลิตในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดน้ำมัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 1 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2568 โดยระบุว่า GDP หดตัวลง 0.3% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากที่มีการขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 4/2567

สำหรับข้อมูลสต็อกน้ำมันที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 390,000 บาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.0 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 937,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล

Back to top button