
WTI ร่วง 2% ก่อนประชุม “โอเปกพลัส” – หวั่นเทรดวอร์ฉุดราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ปรับตัวลดลง นักลงทุนชะลอซื้อขายก่อนประชุมโอเปกพลัส ขณะที่สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนกดดันแนวโน้มดีมานด์ทั่วโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลง 95 เซนต์ หรือ 1.60% ปิดที่ระดับ 58.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม โดยปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบหนึ่งเดือน จากแรงกดดันของความไม่แน่นอนก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (โอเปกพลัส) ซึ่งได้เปลี่ยนกำหนดการประชุมจากวันที่ 5 พฤษภาคม มาเป็นวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคมนี้ โดยยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปรับลดลง 84 เซนต์ หรือ 1.35% ปิดที่ 61.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญา WTI ร่วงลงประมาณ 7.7% และเบรนท์ลดลงมากกว่า 8% สะท้อนแรงขายต่อเนื่องจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อันเนื่องมาจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายเริ่มปรับลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้
นักลงทุนยังจับตาการเจรจาระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดทางการจีนได้เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอของสหรัฐฯ เพื่อเปิดทางสู่การเจรจาภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนยังคงปกคลุมทิศทางตลาด
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาน้ำมันจะเผชิญแรงกดดันหลายด้าน แต่การปรับตัวลดลงในวันศุกร์กลับถูกจำกัดจากปัจจัยบวกบางประการ เช่น ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน คำขู่ล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมพิจารณาคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อผู้ซื้อน้ำมันจากอิหร่าน ยิ่งสร้างความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานตึงตัวในตลาดโลก ซึ่งเป็นแรงพยุงราคาน้ำมันบางส่วนในระยะสั้น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เตือนว่าหากสหรัฐฯ เดินหน้ามาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน อาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์และสร้างแรงเสียดทานต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่จากอิหร่าน