
SCBX กางโรดแมปรายได้ AI แตะ 75% ปี 70 ตอกย้ำองค์กรขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
SCBX วางเป้ารายได้จากเทคโนโลยี AI สัดส่วน 75% ภายในปี 2570 ตอกย้ำองกรค์ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดตัว “SCBX AI Outlook 2025” whitepaper ฉบับแรกในไทย รวบรวมเทรนด์ AI สำหรับภาคธุรกิจไทยใช้เป็นแนวทางยกระดับองค์กรสู่การเป็น AI-first Organization
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(8 พ.ค.68) บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำของไทย เปิดตัวรายงาน “SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence” AI whitepaper สรุปเทรนด์สำหรับธุรกิจฉบับแรกในไทย คู่มือเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็น AI-first Organization เพื่อแบ่งปันวิสัยทัศน์และประสบการณ์จริงในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในบริบททางธุรกิจที่หลากหลาย อันจะเป็นแนวทางให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับตัวและเตรียมความพร้อมท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยรายงาน SCBX AI Outlook 2025 นำเสนอเทรนด์สำคัญ 4 ประการที่กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ 1.Open vs Closed AI: ช่องว่างระหว่าง AI แบบเปิดและแบบปิดที่ลดลง พร้อมนัยสำคัญทางธุรกิจ,2.More versatile, Smaller, Smarter AI: ยุคใหม่ของ AI ที่มีขนาดเล็กลง ยืดหยุ่นมากขึ้น และมีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์,3.Rise of Agentic AI: การเติบโตของ AI ที่สามารถวางแผน ให้เหตุผล และดำเนินการได้โดยไม่ต้องรับคำสั่งทีละขั้นตอน และ 4.The Road to AGI: ความท้าทายและโอกาสในการพัฒนา AI ที่มีความสามารถระดับมนุษย์
ด้านนายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Chief Innovation Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “กลุ่มเอสซีบีเอกซ์มุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการสร้างรายได้ 75% จาก AI ภายในปี 2570 ซึ่งเรากำลังพัฒนาความสามารถด้าน AI ขั้นสูงผ่านการใช้ข้อมูลและการวิจัยพัฒนา พร้อมทั้งนำหลักการ AI ที่มีความรับผิดชอบมาใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กรนี้ บริษัทจึงได้จัดตั้งหน่วยงานวิจัยและพัฒนา หรือ SCBX R&D Innovation Lab ขึ้นเพื่อให้เป็นหน่วยงานกลางที่สำคัญในการทำหน้าที่วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน AI ให้กับกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ โดยจะทำงานร่วมกับบริษัท SCB 10X และ DataX อย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างและผลักดันให้มีการนำต้นแบบที่มีผลกระทบสูงไปใช้งานจริงภายในกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ เพื่อสร้างผลสัมฤทธิ์ทางธุรกิจ
นอกจากนี้ SCBX R&D Innovation Lab จะมีการทำงานกับองค์กรอื่นๆ เพื่อสร้างและผลักดันโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ที่มีประโยชน์ต่างๆ เช่น โครงการ Typhoon Thai LLM ที่ SCBX ใช้เป็นประตูเชื่อมโยงและสร้างคุณประโยชน์ให้กับพันธมิตรทั้งสถาบันการศึกษา สตาร์ทอัพ และหน่วยงานภาครัฐ
สำหรับรายงาน SCBX AI Outlook 2025 เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สำคัญของการแบ่งปันวิสัยทัศน์ด้าน AI ของเรา ที่ไม่เพียงนำเสนอมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์ AI เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจริงผ่านโปรเจกต์และกรณีศึกษาต่างๆ เพื่อที่จะสามารถสร้างคุณค่าให้กับบริษัทภายในกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ ลูกค้า พันธมิตร ตลอดจนสังคมโดยรวม
ด้านดร.ทุตานนท์ สินธุประสิทธิ์ R&D and Innovation Lab Lead บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “ในยุคที่ AI และเทคโนโลยีใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงธุรกิจด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน SCBX มุ่งมั่นที่จะแบ่งปันประสบการณ์จริงจากการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI ในบริบทธุรกิจต่างๆ ผ่านรายงาน SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence เพื่อนำเสนอเทรนด์ AI สำคัญ 4 ประการที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมพลิกโฉมอุตสาหกรรม รวมไปถึงด้านงานวิจัย และพัฒนา พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงการนำ AI ไปใช้งานจริงในหลากหลายภาคส่วน เรามุ่งมั่นในการแบ่งปันข้อมูลเชิงกลยุทธ์ผ่านรายงานนี้ เพื่อช่วยให้ผู้นำองค์กรและกลุ่มคอมมูนิตี้ด้าน AI สามารถนำข้อมูลอันเป็นประโยชน์เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับองค์กรหรืองานของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
“SCBX ได้วางป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 68-70) จะมีรายได้ 75% มาจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับ AI ส่วนปีนี้จะพยายามให้ได้ 25% หรือมากกว่า 25% ส่วนปีหน้าประมาณ 50% ในส่วนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ AI จะนับจากทุกธุรกิจที่มีการใช้งาน AI เช่น ธุรกิจสินเชื่อที่ใช้ AI คำนวณเครดิต,ธุรกิจลูกบางแห่งใช้ AI 100% ไม่มีบุคลากรเลยรายได้นั้นจะนับเต็ม ส่วนธุรกิจที่ยังมีคนและใช้ AI บางส่วนจะนับเฉพาะสัดส่วนที่ใช้ AI ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละสเต็ปของธุรกิจ ส่วนงบวิจัยพยายามให้อยู่ในช่วง 3-5% ของกำไรหรือกว่าพันล้านบาทต่อปี” ดร.ทุตานนท์ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ SCBX ได้นำเสนอกรณีศึกษาการประยุกต์ใช้ AI ในหลากหลายภาคส่วน อาทิ
-Typhoon Thai LLM: โมเดลภาษาไทยที่ถูกนำไปใช้ในโรงพยาบาลศิริราช โดยศูนย์สารสนเทศและนวัตกรรมข้อมูลศิริราช (SiData+) เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการความรู้ภายในองค์กร ลดภาระงานของบุคลากร และยกระดับการดูแลผู้ป่วย,“สมหมาย” แชทบอทกฎหมาย: ให้คำตอบที่แม่นยำและทันเวลาครอบคลุมกฎหมายไทย 35 ด้าน และความร่วมมือกับ TDRI: วิเคราะห์แนวโน้มตลาดแรงงานและทักษะที่กำลังเป็นที่ต้องการ เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายและการพัฒนาแรงงาน
-AI Voice Trainer: เสริมศักยภาพทีมขายประกันด้วยการฝึกอบรมแบบส่วนตัวจาก AI ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
-แพลตฟอร์มที่ปรึกษาทางการเงินด้วย Agentic AI: ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถให้คำแนะนำที่ปรับเปลี่ยนตามสภาวะตลาดได้แบบเรียลไทม์