“ทองนิวยอร์ก” บวก 1% รับดอลล์อ่อน-นักลงทุนจับตา “ทรัมป์” ถกการค้า “จีน”

ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้น 1% รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ตึงเครียด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันศุกร์ (9 พ.ค.) โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิถุนายน ปรับขึ้น 38.00 ดอลลาร์ หรือ 1.15% ปิดที่ระดับ 3,344.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อของนักลงทุนหลังเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ปรับลดลง 0.3% ซึ่งช่วยให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น

โดยปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำยังรวมถึงความกังวลต่อท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวว่าภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 80% เป็น “อัตราที่สมเหตุสมผล” ก่อนการประชุมร่วมระหว่างตัวแทนจากสหรัฐฯ และจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดจับตาว่าการเจรจาจะมีความคืบหน้าเพียงใดท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า

นอกจากประเด็นเศรษฐกิจ ราคาทองยังได้รับแรงสนับสนุนจากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความขัดแย้งทางทหารระหว่างอินเดียและปากีสถานที่ทวีความรุนแรงถึงขั้นใช้โดรนและปืนใหญ่โจมตีกัน นับเป็นวันที่ 3 ของการปะทะกันที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีระหว่างสองประเทศมหาอำนาจนิวเคลียร์ในเอเชียใต้

ด้านตลาดเอเชีย ดีลเลอร์ทองคำในอินเดียต้องเสนอขายทองคำพร้อมส่วนลด หลังอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอ ขณะที่ค่าเงินรูปีอ่อนค่าทำให้ราคาทองคำในประเทศแตะระดับใกล้จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตรงข้ามกับในจีนที่การบริโภคทองคำเริ่มฟื้นตัวหลังช่วงวันหยุดยาว

ขณะที่ความเห็นจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ไมเคิล บาร์ ผู้ว่าการเฟด ระบุว่า นโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์อาจนำไปสู่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เศรษฐกิจชะลอตัว และการว่างงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะกลายเป็นความท้าทายใหม่สำหรับผู้กำหนดนโยบายในการรักษาสมดุลเศรษฐกิจ

Back to top button