“ดาวโจนส์” ร่วง 269 จุด หุ้น “ยูไนเต็ดเฮลธ์” ประกันยักษ์ใหญ่สหรัฐ ฉุดดัชนีปิดลบ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (13 พ.ค.68) ถือว่าค่อนข้างผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวลดลงกว่า 269 จุด จากแรงขายในหุ้นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ UnitedHealth ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับขึ้นต่อเนื่อง รับแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาดการณ์

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 42,140.43 จุด ลดลง 269.67 จุด หรือ -0.64%
• ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 5,886.55 จุด เพิ่มขึ้น 42.36 จุด หรือ +0.72%
• ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 19,08 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 301.74 จุด หรือ +1.61%

แรงกดดันหลักมาจากหุ้น UnitedHealth ที่ร่วงกว่า 17.8% หลังบริษัทประกาศระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปีนี้ และนายแอนดรูว์ วิทตี้ ซีอีโอของบริษัท ประกาศลาออกอย่างกะทันหัน

ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ส่วนเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าคาดที่ 0.3% สะท้อนแรงกดดันด้านราคาที่เริ่มผ่อนคลาย

นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนยังได้รับแรงหนุนจาก ข้อตกลงลดภาษีศุลกากรชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯ และจีน เป็นเวลา 90 วัน โดยสหรัฐฯ ลดภาษีลงเหลือ 30% จากเดิม 145% และจีนลดเหลือ 10% จาก 125%

Goldman Sachs ปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนี S&P 500 สิ้นปี 2568 ขึ้นเป็น 6,100 จุด จากเดิม 5,900 จุด โดยอิงจากแนวโน้มเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ฟื้นตัวดีขึ้น

กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีเคลื่อนไหวโดดเด่น อาทิ Nvidia พุ่ง 5.6% หลังได้รับคำสั่งซื้อชิป AI จากซาอุดีอาระเบีย, Broadcom เพิ่มขึ้น 5% และ AMD เพิ่มขึ้น 4% ขณะที่ Coinbase พุ่งขึ้นเกือบ 24% หลังได้รับเลือกเข้าร่วมเป็นหนึ่งในดัชนี S&P 500 ซึ่งจะมีผลในวันที่ 19 พ.ค.นี้

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาคำแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ (15 พ.ค.68) เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง